เนื่องจากคุณแม่เป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับลูกที่สุด ดังนั้น การอบรมสั่งสอนของคุณแม่จึงมีอิทธิพลอย่างมาถึงมากที่สุดต่อลูกน้อย แต่ว่าการเป็นคุณแม่ที่ดีไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด คุณผู้ฟังรู้ไหมคะว่า คุณลักษณะสำคัญ 5 อย่างของคุณแม่ดังต่อไปนี้ นอกจากจะเป็นที่ชื่นชอบของลูกแล้ว ยังจะทำให้คุณเป็นคุณแม่ที่น่าเคารพเวลาอยู่ต่อหน้าลูกด้วย มาดูพร้อมกันว่าคุณมีลักษณะ 5 อย่างนี้หรือไม่

คุณลักษณะที่ดีประการแรกคือ เป็นคุณแม่ที่อารมณ์ดีชอบยิ้มแย้ม

ขณะที่ลูกยังอยู่ในท้องของคุณแม่ เขาก็ได้สัมผัสถึงอารมณ์ต่างๆแล้ว ไม่ว่าจะเป็นความดีใจ เศร้าใจ หรือความโกรธไม่สบายใจของคุณแม่แล้ว และหลังจากที่คลอดลูกแล้ว สีหน้าของคุณแม่ก็จะอยู่ในตาของเด็กทารก เพราะว่า คุณแม่เป็นคนที่ใกล้ชิดที่สุดกับเขามากที่สุด และก็เป็นคนที่เขาจะเลียนแบบเป็นคนแรก

ดังนั้น คุณแม่ท่านใดที่ชอบทำหน้าดุไม่ค่อยยิ้มแย้ม จะอบรมลูกให้เป็นคนที่อารมณ์ดีมีความสุขกับคนรอบข้างก็คงทำได้ไม่ง่าย เพราะว่า โลกของเด็กเป็นโลกที่บริสุทธิ์ คุณแม่ที่ชอบยิ้มก็จะอัดฉีดพลังบวกมากยิ่งขึ้นให้กับชีวิตความเป็นอยู่ของลูก โดยเฉพาะในยามที่เขาเจอปัญหาหรือประสบความท้อแท้ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มปลอบโยนของคุณแม่ จะเป็นพลังขับเคลื่อนที่ช่วยให้เขาแก้ไขปัญหาและข้ามผ่านอุปสรรคความยากลำบากนั้นไปได้ในที่สุด

ประการที่สอง เป็นคุณแม่ที่มีอารมณ์ขัน

ในครอบครัวส่วนใหญ่ คุณพ่อมักจะยุ่งกับหน้าที่การงานเป็นสำคัญ และหน้าที่การสอนหนังสือ อบรมพฤติกรรมและนิสัยของเด็กส่วนใหญ่จะมีคุณแม่เป็นผู้รับผิดชอบสั่งสอนและดูแล ดังนั้น คุณแม่ที่มีทั้งงานนอกบ้านและงานในบ้าน จึงมักจะอยู่ในสภาพที่ตึงเครียดและเผลอใช้เสียงดังกับลูกเสมอๆ ยิ่งถ้าต้องตกอยู่ในสภาพที่เครียดและอารมณ์ไม่ดีนานๆ ก็จะทำให้ความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดระหว่างลูกกับคุณแม่เกิดช่องว่าง และอาจส่งผลให้ลูกเป็นเด็กที่อารมณ์เสียง่ายได้มากยิ่งขึ้นด้วย

ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เด็กส่วนใหญ่ที่ดื้อรั้นไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่ ก็เพราะว่าในระหว่างการสื่อสารพูดคุยกับเขา คุณแม่ขาดเทคนิคในการพูดบางอย่าง ดังนั้น ลองเปลี่ยนวิธีการนิดหน่อยก็จะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นได้ อย่างเช่น ลองพูดล้อเล่นกับลูกดู ก็จะช่วยให้เขาเปลี่ยนจากร้องไห้งอแงเป็นการยิ้มหัวเราะได้ คุณแม่ที่ตลกสนุกสนานจะทำให้ลูกรู้สึกว่าสนิทและน่าใกล้ชิดยิ่งขึ้น

คุณลักษณะที่ดีประการที่ 3 คือ ชอบเล่นหยอกล้อกับลูก

สังคมปัจจุบันเด็กๆจะมีแรงกดดันจากการเรียนหนังสือที่หนักมาก แม้อายุจะยังน้อยก็ต้องไปเรียนพิเศษ เข้าคอร์สอบรมกิจกรรมต่างๆ จึงมีเวลาน้อยที่ได้เล่นตามใจอย่างสนุกสนาน พอกลับถึงบ้านแล้ว คุณพ่อคุณแม่ที่ทำงานหนักเหนื่อยทั้งวัน ส่วนใหญ่ก็จะถามให้ความสนใจแต่กับการเรียนหนังสือของลูก ดังนั้น ก็จะละเลยความเหงาและเหนื่อยล้าทางใจของลูก

ซึ่งในความเป็นจริง ลูกทุกคนอยากจะมีเวลาเล่นกับคุณพ่อคุณแม่ระยะหนึ่งหลังเลิกเรียนกลับมาบ้าน ซึ่งช่วงที่เด็กอายุ 0-3 ขวบเป็นช่วงที่เด็กมีพัฒนาการทางสติปัญญาที่เร็วที่สุด ดังนั้น หากช่วงนี้คุณพ่อคุณแม่จะสามารถให้เวลามากขึ้นมาเล่นกับลูก ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้เด็กสนุกดีใจมากขึ้น แต่ยังสามารถทำให้เด็กมีความฉลาดมากยิ่งขึ้นด้วย

ประการที่ 4  เป็นคุณแม่ที่เก่งในการจัดสรรเวลา

เด็กๆย่อมจะมีการควบคุมตนเองที่ยังไม่ดีพอ ดังนั้น สิ่งต่างๆ ที่ทำจะช้ามาก เพราะพวกเขายังควบคุมตนเองไม่ได้ และหากคุณแม่ยังเรียกร้องหรือดุลูกในเวลานี้ ก็ยิ่งจะทำให้เพิ่มความยากลำบากให้กับลูกมากยิ่งขึ้น

ในความเป็นจริง เด็กยิ่งต้องการคุณแม่ที่เก่งในการจัดสรรเรื่องเวลาให้พวกเขา คอยชี้แนะเรียบเรียงการวางแผนตารางเวลาให้ ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้ลูกเรียนรู้การวางแผนจัดสรรเวลาได้ว่าเมื่อไรควรทำอะไร หากยังจะลดความวิตกกังวลของคุณแม่ลงได้ด้วย แต่ต้องไม่ใช่เป็นการเรียกร้องให้เด็กทำให้ได้ดีเรียบร้อยเท่านั้นจึงจะพอใจ เพราะว่าส่วนใหญ่ไม่ใช่ว่าเด็กไม่ต้องการทำให้ออกมาดี แต่เป็นเพราะว่าพวกเขาไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรจึงจะทำให้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น การจัดการและชี้นำชักชวนของคุณแม่เป็นสิ่งสำคัญมาก

และคุณสมบัติที่ดีอย่างที่ 5 ประการสุดท้าย เป็นคุณแม่ที่ร่วมกับลูกแก้ไขปัญหาและอุปสรรคที่ยากลำบาก

ในช่วงการเจริญเติบโตของเด็ก จะต้องประสบพบเจอกับเรื่องต่างๆ มากมาย รวมถึงปัญหาความยากลำบากต่างๆ ด้วย บางครั้งเป็นเรื่องการเรียนหนังสือ บางครั้งเป็นเรื่องความสัมพันธ์กับเพื่อน จิตใจของเด็กยังไม่แข็งแรงพอเพียงที่จะเผชิญทุกอย่างได้ดีพอ ดังนั้น ลูกต้องการครูที่อบอุ่นและมีพลังคอยอยู่ข้างๆ ดังนั้น หากคุณแม่สามารถคอยรับฟังและช่วยให้คำแนะนำในการแก้ไขปัญหาความยากลำบากต่างๆที่กวนใจเขา ความรู้สึกโล่งกระจ่างแจ้งทันใดนั้น ย่อมจะเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมากเป็นพิเศษสำหรับลูก และเขาก็จะค่อยๆเลียนแบบวิธีการของคุณแม่  ลองคิดทบทวนและแก้ไขปัญหาของตนเองได้ ความมั่นใจในตัวเองของพวกเขาก็ย่อมจะเพิ่มมากขึ้นด้วย

นี่คือลักษณะนิสัยที่ดี 5 ประการของคุณแม่ ที่พวกเรานำมาฝาก จริงๆแล้วระหว่างกระบวนการดูแลสั่งสอนลูก คุณแม่ทุกท่านเองก็ได้เรียนรู้วิธีการรับมือต่างๆไปด้วยอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะมีคุณลักษณะที่ดีมากน้อยเพียงใด ก็ให้เริ่มต้นจากความเขาใจลูกก่อนเป็นสำคัญ แนะนำว่าขอให้คุณแม่หาเวลาถามลูกว่า ลูกของคุณชอบคุณแม่แบบไหน เราเชื่อว่า คำตอบของลูกย่อมจะสร้างแรงบันดาลใจให้คุณได้อย่างดีแน่นอน

yim/kt