นายหวัง ฉีซาน รองประธานาธิบดีจีนที่กำลังเข้าร่วมฟอรั่มเศรษฐกิจโลกที่ดาวอสเสนอว่า การศึกษาประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและปรัชญา จะเป็นกุญแจดอกสำคัญสู่การเข้าใจประเทศจีน

จีนเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น และได้กำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจและสังคมตามความเป็นจริงและมีความยืดหยุ่น จนผลักดันสู่การปฏิรูปและพัฒนาสังคมจีนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ แม้ว่ามีปัจจัยหนุนหลายด้าน แต่ที่สำคัญที่สุดคือ แนวคิดการบริหารประเทศที่ว่า “ถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง” นั้น ได้แสดงบทบาทเด่นชัดมากที่สุด

ส่วนนโยบายทางการทูตของจีน เสนอให้สร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแบบใหม่และมีค่านิยมที่ถูกต้อง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแบบใหม่ ต้องถือความร่วมมือและรับประโยชน์ร่วมกันเป็นแกนนำ เสนอการดำเนินความร่วมมือแทนการตั้งตัวเป็นปรปักษ์กัน รับประโยชน์ด้วยกันแทนผลประโยชน์ส่วนตัว ยกเลิกการกระทำที่เอาตัวออกห่างจากประเทศเพื่อนบ้านและไม่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย

แนวคิดเกี่ยวกับการดำเนินความร่วมมือและได้รับผลประโยชน์ร่วมกันนั้น ได้สืบทอดจากวัฒนธรรมจีนดั้งเดิมที่มีช้านานกว่าห้าพันปีและประสบการณ์ทางการทูตในยุคใหม่ของจีน แนวคิดดังกล่าวแตกต่างจากแนวคิดของตะวันตกที่เน้นถึงปลาใหญ่กินปลาเล็ก และผู้ที่อยู่รอดต้องหากินเอง

ห้าปีที่ผ่านมานี้ จีนเสนอและผลักดันข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง บางคนเห็นว่าเป็นการท้าทายระเบียบสากลที่นำโดยฝ่ายตะวันตก ซึ่งเป็นความคิดที่คัคบแคบ จริงๆแล้ว ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางมีต้นกำเนิดจากวัฒนธรรมจีน “เมิ่ง จื่อ” นักปรัชญาจีนโบราณเคยกล่าวว่า “เมื่อตนเองพัฒนาได้ดิบได้ดีแล้วก็ต้องช่วยเหลือคนอื่นบ้าง” ณ ปัจจุบัน จีนเสนอให้ร่วมมือกันและได้รับประโยชน์ด้วยกัน เป็นการสานต่อวัฒนธรรมจีนที่สืบทอดมาหลายพันปี

นายหวัง ฉีซานยังกล่าวที่ดาวอสว่า จีนได้เดินบนหนทางที่สอดคล้องกับประเทศตนและยุคสมัยอย่างถูกต้อง และจะปรับปรุงสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์ของจีนให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นขณะดำเนินการปฏิรูปและเปิดประเทศ เมื่อวาน วันนี้ และพรุ่งนี้ เชื่อมต่อกันอย่างใกล้ชิด ต้องเข้าใจสภาพความเป็นจริงของจีน ต้องเรียนรู้ประวัติศาสตร์จีน จึงจะสามารถคาดเดาถึงอนาคตของจีนได้

Yim/Ping/Cai