ทูตไทยประจำจีนระบุ ข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ทำให้ไทย-จีนมีอนาคตความร่วมมือกว้างขึ้น

2019-03-11 12:04:17 | CRI
Share with:

图片默认标题_fororder_91529822720e0cf3ceab61ca99e3881bbf09aac8

ในวาระเปิดการประชุมสองสภาปีนี้ นายพิริยะ เข็มพล เอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวต่อสื่อมวลชนว่า ข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ได้ทำผลประโยชน์อย่างมากแก่ไทยและประเทศสมาชิกอาเซียน โดยเขาเชื่อว่า ข้อริเริ่มนี้จะทำให้ไทยและจีนมีอนาคตความร่วมมือที่กว้างยิ่งขึ้น

ในขณะที่การประชุมสองสภาของจีนกำลังจัดขึ้นนั้น นายพิริยะ เข็มพล  เห็นว่า การประชุมดังกล่าวได้ให้ความสำคัญต่อการอภิปรายการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ ขณะนี้ เศรษฐกิจจีนกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงด้านนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรืออาจกล่าวได้ว่า เป็นขั้นตอนเศรษฐกิจใหม่ ที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีถูกนำมาใช้เพื่อยกระดับเศรษฐกิจ นอกจากนี้ เขายังได้ตั้งคำถามถึงความสำคัญของข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ว่า ภายใต้กรอบข้อริเริ่มดังกล่าวจะสามารถใช้มาตรการปรับปรุงให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และขยายการติดต่อและเชื่อมโยงซึ่งกันและกันได้มากยิ่งขึ้นหรือไม่

โดยนายพิริยะ เข็มพล  มองว่า การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ของจีนได้สร้างคุณูปการต่อการพัฒนาของเศรษฐกิจโลกด้านต่าง ๆ จีนเป็นคู่ค้าอันดับแรกของประเทศสมาชิกอาเซียน และเป็นคู่ค้าอันดับแรกของหลายประเทศ ความเจริญรุ่งเรืองและการพัฒนาของเศรษฐกิจจีนเป็นผลดีต่อทั่วโลก ภายในประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ มีแผนการติดต่อและเชื่อมกันซึ่งกันและกัน โดยมีแผนที่จะสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน เช่น การปรับปรุงถนน สะพาน และสนามบิน ซึ่งหากมองในมุมมหภาค ข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ของจีน ได้มอบเงินทุนให้กับอาเซียน เพื่อส่งเสริมการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน ดังนั้น อาเซียนและจีนไม่ว่าในระดับ “ไมโคร” ถึง “มาโคร”  ต่างเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน ดังนั้น ข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” จึงเป็นการแสดงบทบาทที่สำคัญในด้านการส่งเสริมการติดต่อและการเชื่อมโยงระหว่างประเทศสมาชิกต่าง ๆ ในอาเซียน

Tim/kt/cici

  • เสียงข่าวประจำวัน (25-04-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (25-04-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (25-04-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (24-04-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (24-04-2567)

张楠