วันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติผ่าน “กฎหมายว่าด้วยหลักประกันไต้หวัน ปี 2019” และ “ญัตติยืนยันความมุ่งมั่นต่อไต้หวันของสหรัฐฯ และการประกาศใช้กฎหมายความสัมพันธ์กับไต้หวันของสหรัฐฯ” ซึ่งเป็นการใช้ปัญหาไต้หวันของสหรัฐฯ อีกครั้งเพื่อแทรกแซงกิจการภายในของจีน และถือเป็นการยับยั้งการพัฒนาความสงบสุขของจีน ซึ่งถือเป็นการเปิดโปงการกระทำทางการเมืองที่เป็นอันตราย ตลอดจนเปิดเผยแผนการทางการเมืองของบางฝ่ายในสหรัฐฯ หากสหรัฐฯ ยังคงดำเนินการเช่นนี้ต่อไป จะเป็นการสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อความร่วมมือระหว่างจีนและสหรัฐฯ ในด้านที่สำคัญ อีกทั้งยังเป็นอันตรายต่อสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน จีนคัดค้านเรื่องนี้อย่างจริงจัง และได้ยื่นข้อเสนอที่เข้มงวดต่อสหรัฐฯ แล้ว
นักการเมืองในรัฐสภาสหรัฐฯ ต้องรับทราบอย่างชัดเจนว่า ความพยายามในการใช้ปัญหาไต้หวันมายับยั้งจีนจะเป็นทางตัน เนื่องจากทำข้อให้เกิดข้อผิดพลาดร้ายแรงในสามประเด็นดังนี้ 1. ทำลายรากฐานการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ 2. พยายามใช้ไต้หวันทดสอบขีดจำกัดของจีน และ 3. ก่อความวุ่นวายในช่องแคบไต้หวันโดยส่งผลต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค
ประธานาธิบดีจีนสี จิ้นผิง ได้เน้นย้ำหลายต่อหลายครั้งว่า จีนมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการประสานงานและความร่วมมือระหว่างประเทศขนาดใหญ่ โดยหวังว่า ประเทศใหญ่จะสามัคคี ไม่มีความขัดแย้ง ไม่มีการต่อสู้ เคารพซึ่งกันและกัน มีความร่วมมือ และเอาชนะร่วมกัน ในฐานะหนึ่งในความสัมพันธ์ทวิภาคีที่สำคัญที่สุดของโลก ความสัมพันธ์จีนและสหรัฐฯ จะพัฒนาไปข้างหน้าโดยอาศัยความกลมกลืน ความร่วมมือ และความมั่นคง สิ่งนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้และไม่ควรเปลี่ยน ทั้งนี้ นักการเมืองในสหรัฐฯ บางคนอย่าดูถูกความมุ่งมั่นของจีนในประเด็นไต้หวัน
Tim/Patt/Zhou