สถานีวิทยุซีอาร์ไอ รายงานว่า วันที่ 17 พฤษภาคม นายหม่า เจาซี่ว์ ผู้แทนจีนประจำสหประชาชาติ กล่าวแถลงจุดยืนของจีนในความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐฯ ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ    

นายหม่า เจาซี่ว์ ได้รายงานความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ภายหลังสหรัฐฯ ก่อความขัดแย้งทางการค้าโดยลำพังฝ่ายเดียวเมื่อเดือนมีนาคมปี 2018 รวมไปถึงมีการชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง   และแถลงจุดยืนของจีนต่อเรื่องนี้ เพื่อหักล้างคำกล่าวหาจีนของสหรัฐฯที่ไม่มีมูล โดยมีผู้แทนประเทศสมาชิกสหประชาชาติและองค์กรระหว่างประเทศกว่า 100 คนเข้าร่วม 

นายหม่า เจาซี่ว์  กล่าวว่า วันที่ 1 ธันวาคมปีที่แล้ว  ผู้นำจีนและสหรัฐฯ ได้บรรลุความเห็นพ้องต้องกันในที่ประชุมกลุ่มประเทศจี 20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินาว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงจะขยายความร่วมมือบนพื้นฐานการอำนวยประโยชน์แก่กัน และจะควบคุมความขัดแย้งกันบนพื้นฐานเคารพซึ่งกันและกัน โดยจะร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ อย่างสอดประสานกัน ร่วมมือกัน และมีความมั่นคง  หลังจากนั้น คณะทำงานของทั้งสองฝ่ายได้ดำเนินการเจรจาหลายครั้ง โดยจีนยืนหยัดให้แก้ไขข้อขัดแย้งผ่านการเจรจา และเปิดประตูแห่งการเจรจามาโดยตลอด โดยได้หารือกับคณะทำงานของสหรัฐฯ ด้วยความอดทดและจริงใจถึงที่สุด เพื่อแสวงหาประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ กลับไม่คำนึงถึงความจริงใจและปฏิบัติการเชิงบวกของจีน รวมทั้งไม่คำนึงถึงหลักความเสมอภาคเท่าเทียมและอำนวยประโยชน์แก่กัน โดยใช้วิธีกดดันจีนให้ถึงที่สุดและตั้งเงื่อนไขแบบที่จีนไม่สามารถรับได้ ทั้งนี้ เป็นเหตุให้ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ยกระดับสูงขึ้น  ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ จึงตกอยู่ในสภาวะที่ยากลำบากมาก ผลร้ายดังกล่าวเกิดขึ้นจากการแสดงอำนาจบาตรใหญ่ทางการค้าของสหรัฐฯ สหรัฐฯ จึงต้องรับผิดชอบต่อผลร้ายทั้งหมดที่เกิดขึ้น จีนไม่อยากและไม่ยอมทำสงครามการค้ากับสหรัฐฯ แต่ก็ไม่กลัว หากมีใครบังคับให้จีนต้องทำ จีนก็จะตอบโต้ให้ถึงที่สุด จีนไม่เคยอ่อนข้อต่อแรงกดดันจากภายนอกใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ จีนมั่นใจว่า จะสามารถพิทักษ์สิทธิอันชอบธรรมของตนเองได้     

(tim/cai)