ตั้งแต่เกิดความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯเป็นต้นมา สหรัฐฯ ใช้เหตุผลต่าง ๆ ในการใส่ร้ายจีนอย่างตั้งใจ เพื่อที่จะบรรลุซึ่งความต้องการฝ่ายเดียว สำหรับกรณีที่สหรัฐฯใส่ร้ายจีนในเรื่อง”การขโมยสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา” นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า ไม่เป็นความจริงแต่เป็นเกมส์การเมือง
ศาสตราจารย์จาง ผิง ผู้ช่วยคณบดีวิทยาลัยสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา ของมหาวิยาลัยปักกิ่ง ได้ติดตามปัญหาการคุ้มครองสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาระหว่างจีน-สหรัฐฯเป็นเวลากว่า 10 ปี โดยศาสตราจารย์จาง ผิงกล่าวว่า ข้อมูลการวิจัยในช่วงเวลากว่า 10 ปี ที่ผ่านมาแสดงว่า สหรัฐฯคิดค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทรัพย์สินทางปัญญาที่สูงมาก แต่รายได้เหล่านี้ไม่ได้ถูกจัดอยู่ในผลประโยชน์ทางการค้าของสหรัฐฯ
เมื่อปีค.ศ. 2016 ที่ผ่านมา จีนได้ชำระค่าธรรมเนียมการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาให้กับสหรัฐฯสูงถึง 7,960 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นหนึ่งในสี่ของยอดรายได้จากค่าธรรมเนียมการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯ ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า การคุ้มครองสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาของจีน ได้ทำกำไรจำนวนมหาศาลให้กับบริษัทต่าง ๆ ในสหรัฐฯ แต่ทางสหรัฐฯไม่ยอมรับความจริงในข้อนี้
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ปี 2018 ที่ผ่านมา ทำเนียบขาวได้ประกาศรายงานฉบับหนึ่งในหัวข้อ “การรุกรานทางเศรษฐกิจของจีน มีภัยคุกคามต่อเทคโนโลยีและสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯและของโลกเช่นไร ” โดยรายงานฉบับนี้ ได้อ้างข้อมูลจากรายงานวิจัยฉบับหนึ่ง ที่กล่าวว่า ทุก ๆ ปี การละเมิดสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาของจีนทำให้สหรัฐฯ มีความสูญเสียด้านเศรษฐกิจสูงสุดถึง 600,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่คำกล่าวนี้ไม่ตรงกับความจริง!
ศาสตราจารย์หวัง เซี่ยวซง จากวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเหรินหมิน ได้ดำเนินการตรวจสอบรายงานต้นฉบับ พบว่า ในรายงานระบุว่า ทุก ๆ ปี การละเมิดสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกได้ทำให้สหรัฐฯมีความสูญเสียด้านเศรษฐกิจสูงสุดถึง 600,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ค่าธรรมเนียมการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาของจีนในการใช้เทคโนโลยีต่างประเทศ เพิ่มขึ้น 4 เท่า โดยเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา ค่าธรรมเนียมดังกล่าวนี้สูงถึง 35,800 เหรียญสหรัฐฯ จัดอยู่ในอันดับที่ 4 ทั่วโลก โดยค่าธรรมเนียมการใช้เทคโนโลยีต่างประเทศภายในประเทศจีนจัดอยู่ในอันดับที่ 2 ทั่วโลก รองลงมาจากสหรัฐฯเท่านั้น
(Bo/Zi/Zheng)