วันที่ 13 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจีนระบุที่กรุงปักกิ่งว่า หน่วยงานมรดกวัฒนธรรมทั่วประเทศควรใช้โอกาสจากการที่ “โบราณสถานเมืองเหลียงจู่” (Archaeological Ruins of Liangzhu City) ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก คุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรม พร้อมส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและการเป็นแบบอย่างแก่กันทางอารยธรรมของโลกอย่างจริงจัง เป็นผู้มีส่วนช่วยและชี้นำแวดวงมรดกโลกทางวัฒนธรรม ทั้งนี้ จีนจะใช้ปฏิบัติการคุ้มครองมรดกวัฒนธรรมเอเชีย พร้อมเดินหน้าโครงการโบราณคดีศึกษารายทาง “1 แถบ 1 เส้นทาง”
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม “โบราณสถานเมืองเหลียงจู่” ซึ่งเป็นตัวแทนอารยธรรม 5,000 ปีของจีน ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ทำให้จีนมีมรดกโลกทั้งหมด 55 แห่ง อยู่อันดับที่ 1 ของโลกเท่ากับอิตาลี
(BO/LING/CAI)