เมื่อเร็วๆ นี้ เหตุการณ์ใช้กำลังรุนแรงในเขตบริหารพิเศษฮ่องกงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ชาวอเมริกันและบุคคลตะวันตกบางคนตั้งใจเข้าไปแทรกแซงกิจการของฮ่องกงอย่างเปิดเผย
ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา มีกลุ่มหัวรุนแรงฮ่องกงได้ก่อเหตุรุนแรงเนื่องจากเรื่องมาตราส่งผู้ร้ายข้ามแดน ชาวตะวันตกบางชาติเช่นสหรัฐอเมริกาและอังกฤษต่างอยากจะยื่นมือเข้ามายุ่งเกี่ยว ตลอดจนได้ให้นักการเมืองหลายคนเข้ามาช่วยสร้างเหตุการณ์ เริ่มจากนาย Jeremy Hunt อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษได้พูดว่าต้องให้ทางการฮ่องกงสอบสวนเหตุจลาจลในวันที่ 12 มิถุนายน หลังจากนั้นรองประธานาธิบดีและรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯก็พบกับผู้สร้างความปั่นป่วนตามลำดับ นักการเมืองตะวันตกบางคนใช้ประเด็น "สิทธิมนุษยชน" และ "ประชาธิปไตย" เป็นข้ออ้าง แต่ที่จริงคือเป็นการใช้สองมาตรฐาน พวกเขาจงใจสร้างความสับสนในเรื่องการใช้กำลังรุนแรงกับการประท้วงอย่างสันติ ใส่ร้ายปฏิบัติการของรัฐบาลและตำรวจของฮ่องกง ตลอดจนกล่าวหาว่ารัฐบาลกลางของจีนพยายามลดสิทธิทางด้านเสรีภาพของฮ่องกง
และเมื่อเร็วๆ นี้ มือดำภายนอกก็เข้ามาแทรกแซงกิจการในฮ่องกงมากยิ่งขึ้น รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษอ้างความเป็นอดีตผู้ปกครองอาณานิคมและโทรศัพท์ถึงผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงเพื่อกดดัน โดยลืมไปว่าตนไม่มีสิทธิ์ดังกล่าวเลย! เจ้าหน้าที่ของสถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯในฮ่องกงก็ได้มีการติดต่อกับกลุ่มสนับสนุน "การแยกตัวเป็นอิสระของฮ่องกง" รูปถ่ายนี้ถูกเผยแพร่ไปทั่ว ซึ่งโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯก็ยังแสดงความชื่นชมต่อการนี้ด้วย การแทรกแซงอย่างแจ่มชัดนี้ เหยียบย่ำพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นการกระทำที่ล้ำเส้นและไร้สำนึกสิ้นดี
ฮ่องกงคือฮ่องกงของจีน ชาวฮ่องกง 7 ล้านคนจะไม่ยอมให้กำลังตะวันตกทำสิ่งที่พวกเขาต้องการตามใจชอบ จะไม่ยอมให้ "ไข่มุกบุรพา" ต้องสิ้นประกายแสงลง
Yim/Lei/Zhou