หนังสือพิมพ์ South China Morning Post ในฮ่องกงลงบทความเมื่อวันที่ 2 ก.ย. ระบุว่าปัจจุบันแม้ว่าความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ และสภาพการชะลอตัวในการเติบโตทางเศรษฐกิจจะยังคงปรากฏอยู่ แต่จีนยังคงถูกคาดการณ์จาก IMF ว่าจะกลายเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2030 เมื่อนึกย้อนไปมองความสำเร็จของจีนในช่วง 70 ปีที่ผ่านมา ความเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่งของแนวโน้มการพัฒนาในระยะยาวมีความชัดเจนมาก
บทความแสดงความเห็นว่าประการแรก GDP เฉลี่ยต่อหัวของจีนนับถึงปลายปีที่แล้วสูงถึง 9,732 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 298,383.12 บาท) เพิ่มขึ้นจากปี 1952 ที่อยู่ที่ประมาณ 54 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,655.64 บาท) ถึง 180 เท่า ประการที่สอง จีนได้เปลี่ยนจากประเทศเกษตรกรรมเป็นหลักไปเป็นโรงงานของโลก ประการที่สาม อัตราการกลายเป็นเมืองได้เพิ่มขึ้นจาก 11% เมื่อ 70 ปีก่อนเป็น 60% และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 20% ประการสุดท้าย ประเทศจีนมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในด้านการเป็นเจ้าของบริษัท นับถึงปลายปีที่แล้ว ผู้ประกอบการเอกชนมีส่วนสร้างคุณูปการในรายได้จากภาษีของประเทศจีนมากกว่าครึ่ง
บทความยังได้กล่าวถึง ตลอด 70 ปีที่ผ่านมา คุณภาพชีวิตของชาวจีนสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อยามที่มีการสถาปนาจีนใหม่ อายุขัยเฉลี่ยของชาวจีนอยู่ที่เพียง 35 ปี แต่ปัจจุบันเพิ่มสูงถึง 77 ปี ในช่วงเวลานี้อัตราการเกิดและการตายของจีนก็ลดลงจากเมื่อก่อน 200% เป็น 6.1% ในปัจจุบัน นอกจากนี้อัตราการไม่รู้หนังสือของจีนก็ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จากเมื่อก่อน 80% ลดลงเหลือเพียง 5% ในปัจจุบัน