สำนักข่าวซินหวา รายงานว่า สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ ได้ประกาศรายงานฉบับหนึ่ง เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา ระบุว่า ภายในปี 2050 จำนวนผู้ประสบภัยที่ต้องการความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมอันเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก อาจมีมากกว่า 200 ล้านคน หรือ คิดเป็นเกือบ 2 เท่าของ 108 ล้านคนในปัจจุบัน
รายงานดังกล่าว ระบุว่า ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจากลมมรสุม ภัยแล้ง และน้ำท่วม อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนั้น จะทำให้จำนวนผู้ประสบภัยเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากก โดยภายใน 2030 ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องอาจเพิ่มขึ้นเป็นปีละ 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นายฟรานเซสโก ร็อกกา ประธานสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ กล่าวว่า ภัยพิบัติจากสภาพอากาศแปรปรวนจำนวนมากได้สร้างแรงกดดันอย่างใหญ่หลวงแก่องค์กรให้ความช่วยเหลือและผู้บริจาค ทั้งนี้ เขาได้เรียกร้องให้เพิ่มงบประมาณในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อลดความเสี่ยงของภัยพิบัติ รวมไปถึงเพื่อหลีกเลี่ยงรายจ่ายด้านการให้ความช่วยเหลือที่จะขยายตัวไปเรื่อย ๆ
(Tim/zheng)