สำนักข่าวซินหวารายงานว่า วันที่ 4 ตุลาคม นางแคร์รี แลม ผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกงของจีน และคณะบริหารมีมติอ้างอิงกฎหมายควบคุมความสงบในสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกข้อบังคับห้ามปิดบังใบหน้า และให้ข้อบังคับดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 00.00 น.ของวันที่ 5 ตุลาคมเป็นต้นไป โดยการออกข้อบังคับดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากสื่อและวงการต่างๆ ในฮ่องกง
หนังสือพิมพ์ต้ากงเป้า ฉบับวันที่ 5 พาดหัวข่าวรายงานว่า องค์การจัดตั้งและบุคคลจำนวนมากในฮ่องกงให้การสนับสนุนการประกาศใช้ข้อบังคับห้ามปิดใบหน้า บทวิเคราะห์ของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ระบุว่า การประกาศใช้ข้อบังคับนี้เป็นมาตรการสำคัญในการปราบปรามการกระทำใช้ความรุนแรง ยุติความไม่สงบ และฟื้นฟูระเบียบของสังคม อีกทั้งยังจะช่วยลดจำนวนวัยรุ่นที่กระทำผิดกฎหมาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการกล้าแบกรับภาระของรัฐบาลที่มีความรับผิดชอบ
หน้าแรกของหนังสือพิมพ์เหวินฮุ่ย ตีพิมพ์คำแถลงขององค์การจัดตั้งต่างๆ ในฮ่องกง เช่น ชมรมมณฑลเจียงซู เจ้อเจียง ไห่หนาน และสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมฮ่องกง โดยคำแถลงขององค์การจัดตั้งเหล่านี้ระบุว่า ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อรัฐบาลในการประกาศใช้ข้อบังคับห้ามปิดบังใบหน้า พร้อมทั้งเรียกร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงกลับมาใช้สติ ถอดหน้ากากออก ยุติการใช้ความรุนแรง คำแถลงยังเรียกร้องให้ทั่วสังคมช่วยเยาวชนพ้นจากสภาวะอันตราย สร้างระบบการปกครองด้วยระบบกฎหมายอีกครั้ง ปราบปรามการใช้ความรุนแรงของกลุ่มก่อความไม่สงบ ฟื้นฟูระเบียบของสังคม และลงโทษกลุ่มก่อความไม่สงบตามกฎหมาย และมาตรฐานสากล
บทวิเคราะห์ของหนังสือพิมพ์เหวินฮุ่ยยังระบุว่า ข้อบังคับห้ามปิดบังใบหน้ามีบทบาทในการยับยั้งการใช้ความรุนแรง ด้วยเหตุนี้ การออกข้อบังคับดังกล่าวจึงมีความสมเหตุสมผล และมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วน เพราะจะทำให้ตำรวจมีเครื่องมือด้านกฎหมาย และวิธีการปราบปรามการกระทำใช้ความรุนแรงมากขึ้น
(yim/cai)