เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน วุฒิสภาสหรัฐอเมริกาได้ผ่านสิ่งที่เรียกว่า “มติสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกงปี 2019” ที่เสนอโดยสมาชิกบางคน ซึ่งจีนประณามและคัดค้านอย่างรุนแรง โดยมติดังกล่าวระบุว่า สหรัฐฯจะรับรองสภาพการณ์การบริหารพิเศษของฮ่องกงทุกปี เพื่อพิจารณาว่าตั้งอยู่บนพื้นฐาน“กฎหมายนโยบายฮ่องกงของสหรัฐฯ เมื่อปี 1992”แล้วจะให้“สิทธิพิเศษ”เช่น เขตศุลกากรอิสระกับฮ่องกง หรือไม่
อนึ่ง นับตั้งแต่ฮ่องกงคืนสู่มาตุภูมิเป็นเวลา 22 ปี ภายใต้แนวทางการปกครองแบบ “หนึ่งประเทศสองระบบ”และกรอบพื้นฐานกฎหมายก็ได้คงไว้ซึ่งการเป็นท่าเรือเสรีและเขตศุลกากรที่แยกต่างหาก และใช้นามที่เป็น“ฮ่องกงของจีน”มาเข้าร่วมองค์กรระหว่างประเทศและข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ และได้รับการขนานนามว่าเป็น“เขตเศรษฐกิจเสรีที่สุดในโลก”ติดต่อกันเป็นเวลาหลายปี
จึงเป็นความชัดเจนว่า การกระทำดังกล่าวนี้ของสหรัฐฯ ฝ่าฝืนหลักการพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศในปัจจุบัน และกฎเกณฑ์พื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มีอธิปไตยที่เที่ยงธรรม และไม่แทรกแซงกิจการภายในอย่างรุนแรง ไร้ซึ่งกฎหมายใดรองรับ
ตามแถลงการณ์หลักกฎหมายระหว่างประเทศที่ได้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติเมื่อปี 1970 ระบุว่า ประเทศหรือกลุ่มประเทศใดๆ ต่างก็ไม่มีสิทธิ์แทรกแซงกิจการภายในหรือกิจการทางการทูตของประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อม การที่สหรัฐฯใช้สิ่งที่เรียกว่ามติสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกงปี 2019 มาก้าวก่ายกิจการของฮ่องกง แทรกแซงกิจการภายในของจีนอย่างอุกอาจ เป็นพฤติกรรมที่เอาแต่ใจและใช้อำนาจทางการเมืองอย่างรุกราน ละเมิดการยอมรับโดยทั่วไปและไม่เป็นที่นิยมชมชอบ
Yim/kt/zhou