เมื่อเร็ว ๆ นี้ มูลนิธิการพัฒนาสิทธิมนุษยชนของจีน จัดงานสัมมนาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการที่สภาฯ สหรัฐ ลงมติผ่าน “รัฐบัญญัตินโยบายสิทธิมนุษยชนอุยกูร์ ปี 2019” ผู้เชี่ยวชาญที่ร่วมงานสัมมนาในครั้งนี้ ใช้ความเป็นจริง พิสูจน์ให้เห็นว่าร่างดังกล่าวมองข้ามผลสำเร็จการพัฒนาของเขตซินเจียงของจีน สหรัฐฯ ตั้งใจยับยั้งการพัฒนาของจีนโดยใช้สิทธิมนุษยชนเป็นข้ออ้าง
ดร.จู หลี่อวี่ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยสิทธิมนุษยชนของมหาวิทยาลัยเหรินหมินของจีนกล่าวว่า ตั้งแต่สถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นต้นมา เขตปกครองตนเองชนเผ่าอุยกูร์ซินเจียง บรรลุซึ่งการพัฒนาอันยิ่งใหญ่ จากข้อมูลระบุว่าระหว่างปี 1952-2018 ที่ผ่านมา GDP ของเขตซินเจียงจาก 790 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นเป็น 1.2 ล้านล้านหยวน เพิ่มเป็น 200 เท่า ส่วนGDP ต่อคนเพิ่มขึ้นเป็น 49,000 หยวน จากเมื่อก่อนเพียง 160 หยวนเท่านั้น
ศาสตราจารย์จาง หย่งเหอ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสิทธิมนุษยชนของมหาวิทยาลัยภาคตะวันตกเฉียงใต้ ทางรัฐศาสตร์และกฎหมายของจีนกล่าวว่า ปัจจุบันเขตซินเจียงอยู่ท่ามกลางช่วงเวลาที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อปีค.ศ. 2018 ที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวที่ไปท่องเที่ยวซินเจียงมีกว่า 150 ล้านคน ข้อมูลเหล่านี้พิสูจน์ให้เห็นว่าร่างกฎหมายของสหรัฐฯ เป็นการใช้จินตนาการและความสงสัยในการทำความเข้าใจต่อเขตซินเจียง
ศาสตราจารย์ฉาง เจี้ยน ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยสิทธิมนุษยชนของมหาวิทยาลัยหนานไคเน้นว่า วัตถุประสงค์ของสหรัฐฯใน “เรื่องซินเจียง” คือ ยั่วยุให้เกิดความไม่สงบภายในจีน หวังให้จีนแตกแยกจากภายใน และหยุดการพัฒนาที่รวดเร็ว
(Bo/Zi)