ทบทวนกระบวนการมาเก๊ากลับคืนสู่จีน

2020-01-09 11:46:06 | CRI
Share with:

กระบวนการกลับคืนสู่จีนของฮ่องกงต้องเผชิญกับอุปสรรคและความยากลำบากนานัปการ  แต่กรณีของมาเก๊ากลับเป็นไปอย่างราบรื่น  เพราะการเจรจาระหว่างจีน-โปรตุเกสในประเด็นมาเก๊ากลับคืนสู่มาตุภูมินั้นเป็นไปด้วยดีมาโดยตลอด  ซึ่งสาเหตุสำคัญจะต้องย้อนไปกล่าวถึงการปฏิวัติครั้งหนึ่งในประเทศโปรตุเกสช่วงทศวรรษ 1970  เมื่อวันที่ 25 เมษายน ปี 1974   รัฐบาลเผด็จการที่ปกครองโปรตุเกสเป็นเวลานานถึงครึ่งศตวรรษถูกโค่นล้มโดยคณะกรรมการกู้ชาติที่ประกอบด้วยนายทหารหนุ่มกลุ่มหนึ่ง  ผู้คนเรียกรัฐประหารครั้งนี้ว่า “การปฏิวัติ 25 เมษายน” หลังการปฏิวัติ  รัฐบาลใหม่โปรตุเกสได้ยกเลิกการใช้นโยบายลัทธิอาณานิคม  โดยให้อาณานิคมในทวีปแอฟริกาเป็นเอกราช จากนั้น ตั้งแต่ปลายปี 1975 ก็เริ่มถอนทหารออกจากมาเก๊า     ในเวลาต่อมา   โปรตุเกสประกาศบทบัญญัติการบริหารมาเก๊า โดยรับรองมาเก๊าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีน  และปกครองโดยโปรตุเกส

图片默认标题_fororder_20200109回顾澳门回归历程3

ตอนจีนและโปรตุเกสสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในทศวรรษ 1980    โปรตุเกสยืนยันกับจีนอย่างเป็นทางการว่า   มาเก๊าเป็นดินแดนของจีน 

ตอนที่จีนและโปรตุเกสเริ่มเจรจาในการแก้ไขปัญหามาเก๊าในทศวรรษ 1980 นั้น  ประเด็นปัญหาเกี่ยวกับอธิปไตยของมาเก๊าได้แก้ไขเรียบร้อยไปแล้ว   ซึ่งต่างจากกรณีในฮ่องกงที่ต้องกลายเป็นประเด็นปัญหาที่ยุ่งยากมาก   เพราะฉะนั้น  การเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่ายมีพื้นฐานที่ดี  ตอนร่างปฏิญญาร่วม จึงสามารถบรรลุความเห็นเป็นเอกฉันท์อย่างรวดเร็วเรื่องอธิปไตย   โดยมีการระบุในปฏิญญาร่วมว่า   จีนและโปรตุเกสร่วมกันแถลงว่า   มาเก๊าเป็นดินแดนของจีน  จีนจะรื้อฟื้นการใช้อำนาจอธิปไตยในมาเก๊า   ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับกรณีฮ่องกง   อังกฤษไม่ยอมพูดอย่างชัดเจนว่า  ฮ่องกงเป็นดินแดนของจีน  ในแถลงการณ์ร่วมจีน-อังกฤษจึงต้องใช้คำว่า “การกลับคืนสู่มาตุภูมิของฮ่องกงนั้นเป็นความปรารถนาร่วมกันของประชาชนทั่วประเทศจีน  จีนตัดสินใจจะรื้อฟื้นการใช้อำนาจอธิปไตยในฮ่องกง     ส่วนฝ่ายอังกฤษจะคืนฮ่องกงให้แก่จีน ” 

图片默认标题_fororder_20200109回顾澳门回归历程2 拷贝

เมื่อสามารถแก้ไขปัญหาอธิปไตย ซึ่งเป็นปัญหาเชิงหลักการได้แล้ว  ประเด็นปัญหาหลักที่ต้องได้รับการแก้ไขในการเจรจาต่อมาระหว่างจีน-โปรตุเกสก็คือ  วันเวลาที่จีนจะกลับมาใช้อำนาจอธิปไตยในมาเก๊า    ช่วงเวลานั้น  โปรตุเกสอยากให้ยืดเวลาออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ทางที่ดีจะยืดออกไปจนถึงศตวรรษที่ 21  แต่จีนพิจารณาถึงสถานการณ์โดยรวมของภารกิจรวมจีนเป็นเอกภาพ  และเห็นว่า  ต้องให้มาเก๊ากลับคืนสู่มาตุภูมิก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20   อย่างไรก็ตาม  วันเวลามาเก๊ากลับคืนสู่มาตุภูมิสามารถทิ้งห่างจากวันเวลาฮ่องกงกลับคืนสู่จีนสักเล็กน้อย   ทั้งสองฝ่ายใช้เวลาการเจรจาในประเด็นปัญหานี้ค่อนข้างมาก สุดท้ายก็ตกลงกันได้ว่า จีนจะรื้อฟื้นการใช้อำนาจอธิปไตยในมาเก๊าตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม ปี 1999 คือ 10 วันก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 

图片默认标题_fororder_20200109回顾澳门回归历程1

เนื่องจากจีน-โปรตุเกสมีความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอด   รวมทั้งจีนได้พิจารณาถึงเอกลักษณ์และสภาพความเป็นจริงของมาเก๊า ดังนั้น  ตอนร่างนโยบายต่อมาเก๊าบนพื้นฐานแนวทาง “หนึ่งประเทศสองระบบ”   รัฐบาลจีนได้คำนึงถึงความเห็นและความต้องการที่สมเหตุสมผลของฝ่ายโปรตุเกสอย่างมาก  เช่น ในมาเก๊า มีชาวโปรตุเกสจำนวนหนึ่งที่ บรรพบุรุษหลายชั่วอายุคนของพวกเขาอาศัยอยู่ในมาเก๊า    ซึ่งคนกลุ่มนี้มีฐานะทางสังคมและผลประโยชน์พิเศษ จีนยืนยันในแถลงการณ์ร่วมว่า   จะคุ้มครองสิทธิประโยชน์  ประเพณี และวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวโปรตุเกสกลุ่มนี้ตามกฎหมาย    อีกตัวอย่างหนึ่งเช่น  โปรตุเกสให้ความสำคัญกับมรดกทางวัฒนธรรมและบทบาทของโปรตุเกสในมาเก๊า จีนเห็นว่า  ความต้องการดังกล่าวมีความสมเหตุสมผล  จึงมีการระบุในแถลงการณ์ร่วมว่า  จะอนุรักษ์โบราณวัตถุในมาเก๊าตามกฎหมาย   อีกทั้งเห็นด้วยให้ภาษาโปรตุเกสเป็นภาษาทางการ และเป็นภาษาที่ใช้ในการเรียนการสอนได้    นอกจากนี้  ยังได้เน้นความสำคัญด้านวัฒนธรรม   การศึกษา และภาษาของมาเก๊าด้วย   

สำหรับการจัดวางการรับมอบอำนาจการปกครองบริหารของมาเก๊านั้น  จีนเห็นว่า  โปรตุเกสถอนทหารออกจากมาเก๊าไปนานแล้ว  จึงไม่มีปัญหาการรับมอบการดูแลทางการทหารอย่างกรณีฮ่องกง  ด้วยเหตุนี้  กองทัพปลดแอกประชาชนจีนจึงไม่ได้ยาตราทัพเข้าไปในมาเก๊าในวินาทีรับมอบอำนาจการปกครองช่วงเที่ยงคืน  แต่ได้เข้าไปในมาเก๊าอย่างองอาจช่วงกลางวันของวันที่มาเก๊ากลับคืนสู่มาตุภูมิ 

ช่วงเปลี่ยนผ่านของมาเก๊ายาวนานพอๆกับกรณีของฮ่องกง  แต่ประเด็นปัญหาที่ต้องเผชิญมีความแตกต่างกัน  ในช่วงเปลี่ยนผ่าน  มาเก๊าต้องแก้ไขปัญหาหลัก 3 ประการ คือภาษา บุคลากร และกฎหมาย   โดยจีนได้ใช้ความพยายามมาโดยตลอด เพื่ออำนวยความสะดวก และช่วยเหลือฝ่ายโปรตุเกสแก้ไข 3 ประเด็นปัญหาดังกล่าว  ตอนนั้น แม้จะมีความขัดแย้งทางความคิดเห็นกันบ้าง แต่ทั้งสองฝ่ายไม่เคยโต้แย้งกันอย่างเปิดเผย  สุดท้ายก็สามารถแก้ไขปัญหาได้ โดยผ่านการพูดคุยเจรจากัน 

ช่วงเวลานั้น  ผู้นำของทั้งสองประเทศเคยเยือนซึ่งกันและกันหลายครั้ง  ในการเยือนทุกครั้ง ปัญหามาเก๊าย่อมเป็นประเด็นหลักในการพูดคุยเจรจาระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศ  กล่าวได้ว่า  ความร่วมมือด้วยดีในปัญหามาเก๊านั้นได้ส่งเสริมให้มิตรสัมพันธ์ของสองประเทศพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง 

ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 1991  จีนและโปรตุเกสบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการให้ภาษาจีน และภาษาโปรตุเกสเป็นภาษาทางการของมาเก๊า  ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการแก้ไขประเด็นปัญหาหลัก 3 ประการ 

มาเก๊าเป็นพื้นที่ที่มีเอกลักษณ์ของตน  ในพื้นที่แห่งนี้  มีทั้งวัฒนธรรมดั้งเดิมของจีน โปรตุเกส และมาเก๊าเอง   พี่น้องร่วมชาติชาวมาเก๊ามีประเพณีรักมาตุภูมิมาเป็นเวลายาวนาน   ดร.ซุนยัตเซ็น ก็เคยอาศัยอยู่และเปิดคลินิกรักษาคนไข้ที่นั่น  นายเสี่ยน ชิงไห่ คีตกวีชื่อดัง ผู้แต่งเพลง “ร้องประสานเสียงแม่น้ำหวงเหอ” ก็เป็นชาวมาเก๊าเช่นกัน 

ตอนนั้น นายซัมปาอิโอ ประธานาธิบดีโปรตุเกสเคยกล่าวกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนว่า   เขาสนใจในเรื่องมาเก๊าจะสามารถรักษาเอกลักษณ์ของตนได้หรือไม่หลังกลับคืนสู่จีน   อีกทั้งยังได้แสดงความหวังว่า   หลังสิ้นสุดช่วงระยะผ่าน   มาเก๊าจะเป็นปัจจัยทางบวกใหม่ในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-โปรตุเกส  

ในวันที่ 20 ธันวาคม ปี 1999 พิธีส่งมอบอำนาจการปกครองมาเก๊าคืนกลับสู่จีนดำเนินไปด้วยความราบรื่น  จนถึงบัดนี้  ฮ่องกงและมาเก๊าต่างได้กลับคืนสู่มาตุภูมิเรียบร้อยแล้ว  ประชาชนจีนมีความหวังมากยิ่งขึ้นในการรอคอยไต้หวันกลับคืนสู่อ้อมกอดของมาตุภูมิเช่นกัน  เพื่อให้ภารกิจยิ่งใหญ่ในการรวมจีนเป็นเอกภาพนั้นประสบความบริบูรณ์พูนสุขเต็มร้อย 

(yim/cai)

  • เสียงข่าวประจำวัน (24-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (23-11-2567)

  • เกาะกระแสจีน (23-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (22-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (22-11-2567)

许平平