บรรยากาศในภูมิภาคตะวันออกกลางได้ตึงเครียดยิ่งขึ้น หลังจากนายพลกอเซม สุไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ของอิหร่านถูกสหรัฐฯสังหาร ทั่วโลกต่างพากันคาดเดาว่าอิหร่านจะเอาคืนอย่างไร ซึ่งต่อมาอิหร่านได้ประกาศว่า ทหารสหรัฐฯเป็น“กลุ่มก่อการร้าย” หลังจากนั้น เช้าตรู่วันที่ 8 ม.ค.ตามเวลาท้องถิ่น อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธหลายสิบลูกใส่ฐานทัพสหรัฐฯ ประจำอิรัก และประกาศว่าการโจมตีครั้งนี้ทำให้ทหารสหรัฐฯ เสียชีวิต 80 นาย แต่ฝ่ายสหรัฐฯ กล่าวว่ากำลังตรวจสอบความสูญเสียอยู่ พร้อมมีคำสั่งห้ามบินข้ามเขตอ่าวเปอร์เซีย เป็นต้น หลังจากนั้น ก็ได้เกิดเหตุการณ์เครื่องบินพลเรือนยูเครนตกที่กรุงเตหะราน ทำให้เป็นที่จับตามองจากทั่วโลก
การปะทะระหว่างสหรัฐฯกับอิหร่านกำลังรุนแรงยิ่งขึ้น สองฝ่ายจะเปิดศึกใส่กันเมื่อไหร่อย่างไรไม่มีใครรู้ แต่ถ้าหากมีการใช้ปฏิบัติการที่อันตราย หรือทำการตัดสินใจผิดพลาดเพียงนิด สหรัฐฯกับอิหร่านอาจจะตกอยู่ในสภาพแก้แค้นกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้บรรยากาศความเคืองแค้นเข้มข้นขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลาง แน่นอน การนี้จะไม่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย
สำหรับอิหร่าน การใช้ปฏิบัติการแก้แค้นอย่างรุนแรงคงไม่ใช่นโยบายที่ถูกต้อง ปี 2019 นายฮัสซัน โรฮานีประธานาธิบดีอิหร่านยอมรับอย่างเปิดเผยว่า เนื่องจากการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ อิหร่านกำลังเผชิญกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่เคร่งเครียดที่สุดช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ค่าเงินลดลง ราคาสินค้าสูงขึ้น ทั้งนี้เป็นปัญหาสำคัญที่รัฐบาลอิหร่านต้องแก้ไขเร่งด่วน การใช้ปฏิบัติการทางทหารขนาดใหญ่เพื่อแก้แค้นนั้น อาจจะบรรเทาอารมณ์ได้ในระยะเวลาสั้นๆ แต่ย่อมนำมาซึ่งความสูญเสียอย่างมากแน่นอน ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาระยะยาวไกลของประเทศชาติ
(Yim/Lin/zhou)