ช่วงนี้ จีนใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ ‘โควิด-19’ ขณะที่ประชาชนก็ให้ความร่วมมือ และตอบรับนโยบายของรัฐบาลด้วยดี
โดยประชาชนทั่วประเทศได้รวมใจกันเป็นหนึ่งเดียวและไม่ท้อแท้ในการต่อสู้กับไวรัสนี้ จึงมีเรื่องราวที่น่าประทับใจมากมายเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว
เมื่อวันที่ 23 มกราคม รัฐบาลจีนประกาศปิดเมืองอู่ฮั่น ตัดการเดินทางของผู้คน เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ปิดอีกหลายเมืองในมณฑลหูเป่ยเพิ่ม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคค่อนข้างสูง
หลังจากนั้น จีนได้จัดส่งแพทย์และพยาบาลจำนวนหลายหมื่นคนเข้าไปช่วยเมืองอู่ฮั่น พร้อมทั้งสิ่งของที่จำเป็นด้านการแพทย์ เช่น หน้ากากอนามัย ยาฆ่าเชื้อ ชุดป้องกัน และสิ่งของที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน
ส่วนประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศจีนพากันแสดงน้ำใจ เพื่อช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค
หนุ่มจีนคนหนึ่งจากมณฑลเจ้อเจียง ประกาศความตั้งใจ ของเขาที่จะช่วยชาวอู่ฮั่นผ่านแอปพลิเคชั่นว่า จะแจกหน้ากากอนามัยให้ชาวบ้านฟรีกว่า 3 หมื่นชิ้น โดยจะส่ง 2 หมื่นชิ้นส่งไปที่เมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าว ที่เหลือจะนำไปยังบ้านเกิดของเขา เพื่อแจกจ่ายให้ผู้ที่จำเป็นต้องใช้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อ และขาดการรับข้อมูลข่าวสาร เขาจึงจะช่วยสอนวิธีใส่หน้ากากให้ถูกต้องอีกด้วย
เกษตรกรและอาสาสมัครในเมืองเต้อหยาง ช่วยกันบริจาคผักน้ำหนักรวมกว่า 50 ตัน แล้วลำเลียงไปส่งยังเมืองอู่ฮั่นที่ถูกปิดเมืองจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ทั้งนี้เกษตรกรหลายคนเผยว่า ไม่ขอเก็บผลผลิตเอาไว้เพื่อขายเก็งกำไร เพราะหากชาวอู่ฮั่นได้มีผักผลไม้รับประทาน ได้อิ่มท้อง พวกเขาก็ยินดีที่จะสูญเสียรายได้หรือผลกำไรเล็กๆ น้อยๆ จากการขายผลิตผล เพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติ
สมาชิกของสหกรณ์ในเมืองชิงเต่า มณฑลซานตงทางตะวันออกของจีน ช่วยกันจัดสรรผักสดนานาชนิด เตรียมนำส่งไปยังเมืองอู่ฮั่น เพื่อเป็นเสบียงอาหารในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังประชาชนและผู้ประกอบการในชิงเต่าเคยร่วมกันบริจาคผักสดรวม 150 ตัน ส่งไปยังอู่ฮั่นแล้วก่อนหน้านี้
อีกเรื่องหนึ่งที่น่าประทับใจคือ เกษตรกรในพื้นที่ชานเมืองอู่ฮั่นรายหนึ่งได้นำผักที่สวนตนเองมีอยู่ทั้งหมดใส่ลัง ขี่รถสามล้อหลายสิบกิโลเมตรไปถึงโรงพยาบาลที่อยู่ตัวเมืองอู่ฮั่น เกษตรกรรายนี้ไม่รู้ทาง ได้แต่ถามทางชาวบ้านไปเรื่อยๆ สุดท้ายแล้ว เมื่อถึงหน้าโรงพยาบาลก็แจ้งให้เจ้าหน้าที่ช่วยเอาผักที่บรรทุกทั้งหมดลง พร้อมกล่าวว่า ผักสดๆที่มีอยู่ในสวนทั้งหมดนี้ เอามาส่งให้กับเจ้าหน้าที่การแพทย์และพยาบาล เพื่อใช้เป็นอาหาร ขอให้รับไว้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายใดๆ
ในภาวะเช่นนี้ หากเกษตรกรเอาผักตัวเองออกไปขายคงได้เงินอยู่ไม่น้อย เพราะราคาของผัก ผลไม้ที่ราคาสูงจากการขาดตลาด แต่เกษตรกรรายนี้ยอมที่จะเสียสละและช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถของตัวเอง เมื่อถามถึงชื่อนามสกุล เกษตรกรรายนี้ก็ขอสงวนนามไม่ขอเปิดเผย
ในช่วงเวลานี้การรับประทานอาหารของหน่วยแพทย์และพยาบาลเป็นเรื่องใหญ่และเป็นอุปสรรคอย่างมาก หากจะไปซื้อกินข้างนอก ร้านอาหารส่วนมากก็ไม่เปิดให้บริการ ในสถานการณ์ที่การดำเนินชีวิตของประชาชนไม่เป็นปกตินี้ มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังทำหน้าที่บริการประชาชนอย่างขันแข็ง นั่นคือคนส่งอาหาร เนื่องจากการสั่งซื้อสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น ข้าวสารอาหารแห้งของประชาชนบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ มากขึ้นเป็นเท่าตัว คนเหล่านี้ยอมเสี่ยงและเสียสละอย่างมาก หากไม่มีพวกเขาเหล่านี้ยืนหยัดทำงานในแนวหน้า การใช้ชีวิตประจำวันของผู้คนอาจจะยุ่งยากขึ้นไปอีก
มีโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในอู่ฮั่น หมอแผนกโรคระบบทางเดินหายใจได้สั่งอาหารออนไลน์โดยมีโน๊ตทิ้งไว้ว่า “หากว่าไม่กล้าขึ้นมาส่งอาหารขอให้โทรศัพท์บอกล่วงหน้า จะลงไปยืนรอที่หน้าโรงพยาบาล” สุดท้ายแล้วคนส่งอาหารนำอาหารขึ้นมาส่งให้คุณหมอถึงที่ และในถุงอาหารมีโน๊ตจากเจ้าของร้านอาหารเขียนถึงคุณหมอว่า “ขอขอบคุณที่ยืนหยัดอยู่กับประชาชน ผมขอเพิ่มกับข้าวให้ฟรีสองอย่าง สู้ๆ” หมอได้ถ่ายรูปโน๊ตจากเจ้าของร้านอาหารและภาพของคนส่งอาหารที่ขึ้นมาส่งอาหารให้ถึงมือ พร้อมกล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่เอื้ออาทร เป็นเรื่องราวประทับใจที่น่าจดจำ
เรื่องราวที่น่าประทับใจที่หยิบยกมาเล่าสู่กันฟังนี้เป็นแค่เสี้ยวเล็กน้อยเท่านั้น ขณะนี้ ไม่ว่าจะแพทย์ พยาบาล ทหาร ตำรวจ คนงานก่อสร้าง เจ้าหน้าที่รัฐ คนส่งอาหารส่งพัสดุ คนขับรถบรรทุก พนักงานทำความสะอาด อาสาสมัครจำนวนมาก ล้วนยืนหยัดที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ไม่ละเลยหน้าที่ในยามจำเป็นนี้ เชื่อมั่นว่า การสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19จะประสบความสำเร็จในเร็วๆ นี้ และรอยยิ้มจะกลับมาปรากฏบนใบหน้าของชาวเมืองอู้ฮั่นอีกครั้งดั่งเดิม