วันที่ 10 มีนาคม ในเมืองอู่ฮั่นซึ่งเป็นหน่วยหน้าสุดของงานป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดโควิค-19 นายสี จิ้นผิง ผู้นำสูงสุดจีนได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการทำงานที่เมืองอู่ฮั่นด้วยตนเอง และออกคำสั่งยืนหยัดคว้าชัยชนะสงครามต้านการแพร่ระบาดโควิค-19 อย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ “ไม่เฉยชา ไม่เหนื่อยหน่าย และไม่หย่อนยาน ใช้ความพยายามอย่างสุดความสามารถป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดอย่างจริงจัง เพื่อยืนหยัดคว้าชัยชนะในสงครามปกป้องมณฑลหูเป่ยและเมืองอู่ฮั่นให้ได้ในที่สุด”

อนึ่ง การที่นายสี จิ้นผิงเดินทางไปยังศูนย์ปฏิบัติงานป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 แนวหน้าสุดของการทำศึกครั้งนี้ นับว่ามีความหมายสำคัญยิ่งผู้เชี่ยวชาญเห็นว่า สงครามต้านโควิด-19 ของจีนใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว

ภายในช่วงเวลาไม่ถึงสองเดือนที่ผ่านมานี้ ประเทศจีนที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ประสบความสำเร็จในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ผู้คนเห็นพ้องกันว่า นับเป็นผลงานที่ผู้นำสูงสุดจีนร่วมแรงร่วมใจกับประชาชนทำสงครามต่อสู้ครั้งนี้ การที่นายสี จิ้นผิงได้เดินทางไปชี้นำถึงยังแนวหน้าสุดอีกครั้ง ช่วยตอกย้ำคำกล่าวนี้อย่างดียิ่งนาย A. Ostrovsky รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยตะวันออกไกลแห่งสถาบันวิทยาศาสตร์รัสเซียกล่าวว่า นี่แสดงให้เห็นว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนใช้หลักการที่ถือความปลอดภัยทางชีวิตและสุขภาพของประชาชนเป็นอันดับแรก ในการทำสงครามต้านการแพร่ระบาดของโควิด-19 ย่อมสร้างขวัญและกำลังใจให้ประชาชน สามารถยืนหยัดต่อสู้ต่อไปอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ และเอาชนะการแพร่ระบาดของโรคได้ในที่สุด

คำว่า “ประชาชน” มีน้ำหนักมากน้อยเพียงไรในใจของผู้นำสูงสุดจีนนั้นงานป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดนี้ ถือเป็นบานกระจกสะท้อนให้เห็นได้อย่างดี โดยนับตั้งแต่นายสี จิ้นผิงเข้าเป็นผู้บัญชาการงานป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดด้วยตนเอง และเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกลางประจำกรมการเมือง 6 ครั้งภายในเวลา 40 วันนี้ ไปจนถึงการลงพื้นที่ตรวจสภาพการณ์ในแนวหน้าสุดถึง 3 ครั้งนายสี จิ้นผิง ได้ใช้ปฏิบัติการที่แท้จริง แสดงให้เห็นถึงแนวคิดการบริหารปกครองที่ถือมนุษย์เป็นหลักของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน

yim/kt/zdan