วันที่ 14 เม.ย. การประชุมผู้นำ 10 ประเทศอาเซียนกับจีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ สมัยวิสามัญว่าด้วยความร่วมมือต้านการแพร่ระบาดของโควิด-19 จัดขึ้นในรูปแบบการประชุมทางไกล นอกจากผู้นำ 10 ประเทศอาเซียน กับ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้แล้ว ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก และเลขาธิการอาเซียน ก็ได้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ระหว่างการประชุมนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนได้ให้ข้อเสนอและข้อริเริ่มเกี่ยวกับการกระชับความร่วมมือในการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรค และการฟื้นฟูการพัฒนาเศรษฐกิจต่อที่ประชุม
ทั้งนี้ นายอู๋ เจียง อธิบดีกรมกิจการเอเชีย กระทรวงการต่างประเทศจีนให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นการประชุมครั้งนี้ว่า ข้อริเริ่มของจีนได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่าย โดยผู้นำที่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้เห็นเป็นเอกฉันท์ว่า 10 ประเทศอาเซียนกับจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ต้องกระชับความร่วมมือในการร่วมกันป้องกันและควบคุมการระบาดของโรค ขณะเดียวกัน ยังต้องรักษาความคล่องตัวของห่วงโซ่การผลิตและห่วงโซ่อุปทาน พยายามฟื้นฟูการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
นายอู๋ เจียง กล่าวด้วยว่าการประชุมสมัยวิสามัญครั้งนี้เป็นการประชุมสำคัญอีกครั้งระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออก หลังการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศจี 20 สมัยวิสามัญ อีกทั้งยังเป็นการตอบรับที่ดีต่อข้อริเริ่มของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนที่ให้ประชาคมโลกร่วมแรงร่วมใจกันในการรับมือกับการระบาดของโรค และกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศในทุกด้าน
นายอู๋ เจียง กล่าวว่าระหว่างประชุม นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ได้บรรยายสรุปประสบการณ์ของจีนในการประสานการป้องกัน ควบคุมการระบาดของโรค กับการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม อีกทั้งยังได้เสนอข้อเสนอและข้อริเริ่มสำคัญเกี่ยวกับการกระชับความร่วมมือในการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรค การยกระดับสาธารณสุข การฟื้นฟูการพัฒนาเศรษฐกิจ รวมทั้งการรับมือกับความเสี่ยงและการท้าทายในด้านต่างๆ
ข้อเสนอและข้อริเริ่มของจีนดังกล่าวได้รับการตอบรับที่ดีและการสนับสนุนจากทุกฝ่าย ผู้นำทุกประเทศที่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้เห็นเป็นเอกฉันท์ว่า การจัดประชุมครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในยามที่ทุกฝ่ายกำลังรับมือกับการระบาดของโรค 10 ประเทศอาเซียนกับ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ต้องกระชับความร่วมมือ ร่วมกันป้องกันและควบคุมการระบาดของโรค ในขณะเดียวกัน ยังต้องรักษาความคล่องตัวของห่วงโซ่การผลิตและห่วงโซ่อุปทาน พยายามฟื้นฟูการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
ผู้นำประเทศที่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้มีความเห็นร่วมกันสำคัญในหลายด้าน เช่น การยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค และการยกระดับการบริหารด้านสาธารณสุขให้สูงขึ้น นอกจากนี้ ยังเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า ต้องไม่ให้มีการทำลายชื่อเสียงของประเทศอื่น และต้องไม่เลือกปฏิบัติต่อประเทศอื่น ต้องร่วมมือกับองค์การอนามัยโลกและประชาคมระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมกันรักษาความปลอดภัยด้านสาธารณสุขของโลก
นายอู๋ เจียงเผยว่า ทุกฝ่ายเห็นด้วยที่จะแบ่งปันข้อมูลข่าวสาร แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และกระชับความร่วมมือในการวิจัย พัฒนายารักษาโรคและวัคซีน รวมทั้งจะให้การสนับสนุนซึ่งกันและกันด้านเทคโนโลยี เพื่อให้หลักประกันต่ออุปทานด้านยารักษาโรค เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ และเวชภัณฑ์ชนิดอื่น ทุกฝ่ายเห็นด้วยจะหารือเรื่องการนำเงินทุนส่วนหนึ่งจากกองทุนความร่วมมืออาเซียน-จีน และกองทุนความร่วมมืออาเซียนกับจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไปจัดตั้งกองทุนพิเศษ เพื่อสนับสนุนประเทศอาเซียนรับมือกับการระบาดของโรค ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่า ต้องพิจารณาถึงสภาพความเป็นจริงของภูมิภาคเอเชียตะวันออกที่มีความหลากหลายในด้านต่างๆ และแต่ละประเทศมีระดับการพัฒนาที่แตกต่างกันค่อนข้างมาก ต้องเสริมบทบาทในการรับมือกับภัยคุกคามด้านสาธารณสุขของกลไกที่มีอยู่แล้วของ 10 ประเทศอาเซียนกับ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และของ 10 ประเทศอาเซียนเอง นอกจากนี้ ทุกฝ่ายยังได้หารือในการจัดตั้งกลไกสำรองเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์และเวชภัณฑ์ชนิดต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สำรองไว้ไม่เพียงพอ
ทั้งนี้ ทุกฝ่ายเห็นด้วยจะพยายามลดผลกระทบจากโรคระบาดที่มีต่อเศรษฐกิจ และสังคม จะรักษาการติดต่อไปมาหาสู่กันด้านการค้า การลงทุน และการเปิดตลาด รวมทั้งความคล่องตัวของห่วงโซ่อุปทาน อีกทั้งจะใช้นโยบายการคลังในการกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ยังจะให้การสนับสนุนมากขึ้นแก่วิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และประชาชนกลุ่มด้อยโอกาส และจะระมัดระวังต่อความเสี่ยงทางการเงินที่แฝงอยู่
ทุกฝ่ายยินดีที่จะให้องค์กรการเงินพหุภาคีต่างๆ เช่น ธนาคารโลก ธนาคารพัฒนาเอเชีย ธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเอเชียใช้มาตรการสนับสนุนทางการเงินต่อการรับมือกับการระบาดของโรค และการต้านความเสี่ยงด้านต่างๆ
นายอู๋ เจียงสรุปว่า การประชุมครั้งนี้ได้เน้นความร่วมมือภายใต้กรอบ 10 ประเทศอาเซียน กับ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ทำให้ทุกฝ่ายมีความมั่นใจมากขึ้นในการดำเนินความร่วมมือ และยังทำให้แนวทางความร่วมมือส่วนภูมิภาคมีความชัดเจนมากขึ้น จีนมีความพอใจต่อผลการประชุมครั้งนี้ และยินดีที่จะรักษาความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับทุกฝ่าย โดยจะใช้ปฏิบัติการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อชนะการต่อสู้กับการระบาดของโรค ยกระดับสาธารณสุข และฟื้นฟูเศรษฐกิจส่วนภูมิภาคโดยเร็ว
(yim/cai)