ระหว่างวันที่ 20 - 23 เมษายนที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่ คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประธานาธิบดีจีน ลงพื้นตรวจงานที่มณฑลส่านซี กำหนดทิศทางอย่างชัดเจนในการดำเนินมาตรการลดความยากจน รวมถึงด้านอุตสาหกรรม การสร้างโอกาสการมีงานทำ สุขอนามัยของประชาชน และการศึกษา เป็นต้น ถือเป็นการส่งสัญญาณอย่างจัดเจนว่า จีนจะบรรลุเป้าหมายการขจัดความยากจนอย่างรอบด้านตามแผนการที่กำหนด อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงแนวคิดการบริหารประเทศโดย “ถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง” ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
สถานที่ต่าง ๆ ที่นายสี จิ้นผิง เดินทางไปตรวจงานบ่งบอกถึงความหมายพิเศษอย่างยิ่ง ระหว่างวันที่ 20 - 21 เมษายนที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง เดินทางไปยังอำเภอ 2 แห่ง ในพื้นที่เทือกเขาฉิ่นหลิ่น-ต้าปาซาน ซึ่งเป็นเขตยากจนที่สุดของจีน นายสี จิ้นผิง เดินทางไปตรวจโครงการเพาะเห็ดหูหนูและไร่ชาในท้องถิ่น รวมถึงเยี่ยมเยียนชุมชน โรงพยาบาล และโรงเรียนประถมในอำเภอ เพื่อรับฟังสภาพการดำเนินงาน “หลักประกัน 3 ประการ” เพื่อบรรลุเป้าหมายการสร้างหลักประกันด้านอาหารการกิน การศึกษา การรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐานและที่อยู่อาศัยสำหรับกลุ่มผู้ยากจน ทั้งนี้ เป็นมาตรฐานที่มิอาจถกเถียงได้ของงานขจัดความยากจนของจีน
อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบค่อนข้างหนักต่อการมีงานทำของกลุ่มผู้ยากจน ในช่วง 3 วันก่อนลงพื้นมณฑลส่านซี นายสี จิ้นผิง เป็นประธานการประชุมกรมการเมือง คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยประกาศ “หลักประกัน 6 ด้าน” เป็นครั้งแรก ได้แก่ การประกันการมีงานทำของประชาชน การประกันคุณภาพชีวิตขั้นพื้นฐาน การประกันตลาด การประกันความปลอดภัยด้านอาหารและทรัพยากร การประกันความมั่นคงของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทาน และการประกันการดำเนินงานของหน่วนงานพื้นฐาน ระหว่างการลงพื้นที่ครั้งนี้ นายสี จิ้นผิง ยังวางแผนงานการแก้ไขความยากจนในขั้นต่อไปอย่างเป็นรูปธรรม
ปีนี้ หากจีนสามารถบรรลุเป้าหมายการขจัดความยากจนอย่างรอบด้าน ตามที่กำหนด ก็จะแสดงว่าจีนสามารถบรรลุเป้าหมายการลดความยากจนตามแผนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ ปี 2030 ได้ล่วงหน้า 10 ปี อันมีความหมายสำคัญยิ่งต่อทั่วโลก ทั้งนี้ นายโรเบิร์ต ลอว์เรนซ์ คุห์น ประธานมูลนิธิคุห์นของสหรัฐฯ วิเคราะห์ว่า ในอนาคต นักประวัติศาสตร์จะบันทึกงานขจัดความยากจนของจีนเป็นการสร้างคุณูปการอันยิ่งใหญ่ที่สุดของการปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของมนุษย์ให้ดีขึ้นในบรรดาประวัติศาสตร์โลก
(Tim/Zi)