"ด้ายบนมือแม่บังเกิดเกล้า ปักเย็บเสื้อลูกที่ต้องจากไกล ก่อนจากเย็บแน่นแฟ้น เกรงว่าอีกนานกว่าจะกลับมา ใจกตัญญูเท่าต้นหญ้า ไหนเลยจะกตเวทีแม่ผู้มีพระคุณประหนึ่งแสงอาทิตย์แห่งฤดูใบไม้ผลิ" ... (บทกวี "ร่ายลูกจากไกล" ของเมิ่ง เจียว, ผู้แปล Chou Ying)
ในงานเลี้ยงฉลองวันตรุษจีนปี 2015 นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้ท่องบทกวีสมัยราชวงถังข้างต้นนี้
บิดามารดาควรเป็นผู้ที่ใจดีที่สุดในโลก ส่วนลูกก็ควรเป็นคนที่มีใจกตัญญูมากที่สุดเช่นกัน
สำหรับผู้ที่เป็นมารดา การที่ลูกมีความปลอดภัยและความสุขนั้น เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ซึ่งนางฉี ซิน แม่ของนายสี จิ้นผิง ยังมีอีกหนึ่งความคาดหวังสำคัญ นั่นก็คือ ขอให้ลูกมีความรับผิดชอบต่อประเทศและประชาชนด้วย โดยนางฉี ซิน จะสอนลูกด้วยการกระทำ และกลายเป็นแนวทางชี้นำการดำเนินชีวิตให้กับสี จิ้นผิงมาตลอด
เมื่อนายสี จิ้นผิง อายุ 5-6 ขวบ แม่ได้อุ้มเขาไปซื้อหนังสือภาพเล่านิทานเรื่อง “ขุนศึกเย่ว์ เฟย (งักฮุย) พอกลับบ้านก็เล่าเรื่องที่มารดาของเย่ว์ เฟย สลักตัวอักษรที่กลางหลังของลูกชายว่า "จิง จง เป้า กั๋ว” หมายถึง “จงรู้รักภักดีเพื่อแผ่นดิน" เด็กชายสี ฟังแล้วก็ถามแม่ว่า สลักอักษรบนหลังย่อมจะเจ็บมาก คุณแม่ตอบว่า เจ็บแน่นอน แต่ก็ทำให้จำได้แม่น จากนั้น เด็กชายสีก็ได้จดจำอักษรจีน 4 ตัวนี้ไว้ในใจจนถึงทุกวันนี้ และกลายเป็นเป้าหมายของทั้งชีวิต
นางฉี ซิน เป็นผู้ที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายมาโดยตลอด ไม่เคยเรียกร้องสิทธิพิเศษการเป็นภริยานายสี จ้งซุน ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้นำระดับสูงของจีนในขณะนั้น และแม้ว่าลูกหลานจะพักที่โรงเรียนหมด เธอก็ยืนหยัดทำทุกอย่างด้วยตนเองไม่ได้จ้างแม่บ้าน และไม่เคยขอใช้สิทธิอำนาจของสามี เพื่อขอเปลี่ยนสถานที่ทำงานให้มาอยู่ใกล้บ้านด้วย และมีครั้งเดียวเท่านั้นที่เข้าร่วมกิจกรรมทางการทูตในฐานะภริยาของรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่ว่าจะยากลำบากอย่างไร เธอก็ยืนหยัดจ่ายค่าสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนตามเวลามาตลอด
ครอบครัวของประธานาธิบดีสี มีกฎระเบียบและอบรมลูกอย่างเข้มงวด รวมถึงการยึดหลักประหยัดและขยันอดทนด้วย นางฉี ซิน ไม่ว่าจะลำบากหรือเหน็ดเหนื่อยอย่างไรก็จะยืนหยัดทำงานของตนให้ลุล่วง ให้หน้าที่การงานสำคัญเป็นที่สุด เธอสั่งสอนลูกด้วยการกระทำตนเป็นแบบอย่างที่ดี ทำให้นายสี จิ้นผิง มีนิสัยใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย และปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างมุ่งมั่นขยันขันแข็ง
ก่อนที่สี จิ้นผิงจะต้องเดินทางไปใช้ชีวิตในชนบทที่หมู่บ้านเหลียงเจียเหอ ทางภาคเหนือของมณฑลส่านซี นางฉี ซินได้เย็บกระเป๋าให้นายสี จิ้นผิง พร้อมใช้ด้ายแดงปักตัวอักษร 3 ตัวว่า "ใจของแม่" เพื่อให้ลูกนึกถึงคำสั่งสอนและความรักของแม่ไว้เสมอ และตลอด 7 ปีที่ใช้ชีวิตในหมู่บ้านเหลียงเจียเหอ นายสี จิ้นผิง มีมิตรภาพที่ดีงามและผูกพันยิ่งกับชาวบ้านท้องถิ่น และก่อนที่เขาจะเดินทางจากลาหมู่บ้านแห่งนี้ นายสี จิ้นผิง ได้มอบกระเป๋าสุดที่รักที่แม่เย็บให้เขานั้น กับนายจาง เว่ยผาง เพื่อนบ้านที่เขาสนิทด้วย พร้อมกล่าวว่า "ถึงผมจะจากไป แต่ใจผมจะอยู่ที่นี่" กล่าวได้ว่า หมู่บ้านเหลียงเจียเหอเป็นจุดเริ่มต้นความตั้งใจจริงแต่แรกเริ่มของนายสี จิ้นผิง
เทศกาลตรุษจีนปี 2001 นายสี จิ้นผิง ที่ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการมณฑลฝูเจี้ยน ไม่สามารถกลับบ้านไปอยู่กับครอบครัว จึงโทรศัพน์ถึงนางฉี ซิน ผู้เป็นมารดา และเมื่อรู้ว่า ลูกชายต้องทำงานกลับบ้านไม่ได้ นางฉี ซินกลับรู้สึกดีใจและภาคภูมิใจมาก เธอบอกกับลูกว่า "ขอเพียงลูกทำงานของตนให้ดี ก็เป็นการแสดงความกตัญญูที่ยิ่งใหญ่ต่อพ่อและแม่แล้ว เป็นการรับผิดชอบต่อครอบครัว และเป็นการรับผิดชอบต่อตัวลูกเองด้วย มันมาพร้อมกันหมด"
ในห้องทำงานของนายสี จิ้นผิง จะมีภาพถ่ายกับแม่และภาพหมู่ทั้งครอบครัวตั้งประดับอยู่หลายใบ หนึ่งในนั้นคือภาพถ่ายที่เขาเดินจับมือแม่เดินเล่นในสวนสาธารณะ นายสี จิ้นผิง มักแสดงออกถึงความรักและกตัญญูต่อมารดาเสมอ บางครั้งหลังจากรับประทานอาหารกับแม่แล้ว เขาก็จะจูงมือท่านออกไปเดินเล่นข้างนอกด้วยกัน
Yim/Ldan/Cui