ตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 นักการเมืองสหรัฐฯ บางคนมุ่งสร้างความแตกแยก เหยียดเชื้อชาติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปิดบังความล้มเหลวในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ด้วยการใส่ร้ายคนอื่นและไม่รับผิดชอบ
เว็บไซต์ “ไทม์” รายงานว่าจากกรณีผิดกฎหมายเกี่ยวกับโควิด-19 15 กรณีที่กรมตำรวจนครนิวยอร์กสืบสวน ผู้ถูกทำร้ายเป็นชาวอเมริกัน เชื้อสายเอเชียทั้งหมด พร้อมอ้างข้อมูลขององค์กรที่เป็นลอบบี้ยิสต์ของสหรัฐฯ ว่า ตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 องค์กรนี้รวบรวมเหตุทำร้ายคนอเมริกันเชื้อสายเอเชียกว่า 1,200 ราย
ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 รัฐบาลสหรัฐฯ มีมาตรฐานการปฏิบัติที่ต่างกันระหว่างเชื้อชาติ โดยข้อมูลของสำนักงานผู้พิพากษาเขตบรูคลิน ของนครนิวยอร์กปรากฏว่า ระหว่างวันที่ 17 มีนาคม ถึงวันที่ 4 พฤษภาคม มีคนจำนวน 40 คน ถูกจับกุมด้วยข้อหาการผิดข้อกำหนดระยะห่างทางสังคม ในจำนวนนี้ 35 คน มีเชื้อสายแอฟริกา อีก 4 คนเป็นชาวละตินอเมริกา และมีเพียงคนเดียวที่เป็นคนผิวสีขาว
นอกจากนี้ประชาชนผิวสีก็เป็นกลุ่มที่ถูกละเลยหนังสือพิมพ์ “วอชิงตัน โพสต์” ได้อ้างศูนย์การควบคุมโรคระบาดของสหรัฐฯว่า ชาวอเมริกัน เชื้อสายแอฟริกาและคนผิวสีอีกจำนวนมาก มีจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากกว่าคนทั่วไป ส่วนกองทุนศึกษาโรคเอดส์และมหาวิทยาลัยเอมโมรีได้ศึกษาข้อมูลในเดือนเมษายน และวิเคราะห์ว่า ผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตชาวอเมริกัน เชื้อสายแอฟริกามีสัดส่วน 52% และ 58% ในจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตทั้งหมดของสหรัฐฯ ในขณะที่สัดส่วนประชากรผิวสีมีเพียง 13%
ข้อมูลเหล่านี้เป็นสิ่งที่นักการเมืองของสหรัฐฯ ต้องตระหนักว่าสมควรหรือไม่ที่จะสร้างความแตกแยก และการเหยียดเชื้อชาติในสถานการณ์เช่นนี้
Bo/Chu/Zi