วันที่ 26 พฤษภาคม นายหม่า อีเต๋อ สมาชิกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ นักวิจัยสถาบันนิติศาสตร์สภาสังคมศาสตร์กรุงปักกิ่งให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า “การปฏิบัติตามหลักการข้อยกเว้นที่มีจำกัดนั้น เป็นแนวโน้มของการนิติบัญญัติระหว่างประเทศ ซึ่งปัจจุบัน มีคดีที่นักธุรกิจหรือรัฐบาลท้องถิ่นของจีนถูกฟ้องขึ้นศาลที่สหรัฐฯ บ่อยครั้ง แต่เนื่องจากขาดกฎหมายสนับสนุนที่เกี่ยวข้อง ทำให้คนจีนในคดีเหล่านี้ไม่สามารถได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานยุติธรรมของจีน รัฐบาลจีนถูกฟ้องขึ้นศาลต่างประเทศบ่อยครั้ง ทำให้จีนตกอยู่ในฐานะเสียเปรียบในการไปมาหาสู่กันระหว่างประเทศ”
นายหม่า อีเต๋อเสนอว่า ควรเร่งบัญญัติกฎหมายว่าด้วยความคุ้มกันของรัฐต่างประเทศ ที่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของจีน คุ้มครองสิทธิประโยชน์ของพลเมืองจีนและนักลงทุนต่างประเทศ ขณะเดียวกัน ยังเป็นวิธีรับมือกับการฟ้องร้องที่มุ่งร้ายของสหรัฐฯและบางประเทศ ที่อ้างเรื่องการระบาดของโรคโควิด -19
นายหม่า อีเต๋อกล่าวอีกว่า พร้อมกับการไปมาหาสู่กันระหว่างประเทศมากขึ้น กระบวนการโลกาภิวัฒน์ลงลึกยิ่งขึ้น ประเทศต่างๆ มีการเข้าร่วมกิจการระหว่างประเทศนับวันมากยิ่งขึ้นด้วย ทำให้เกิดสภาพรัฐบาลประเทศต่างๆ ถูกฟ้องร้องในประเทศอื่นๆ มากขึ้นเช่นกัน แต่จีนยังไม่มีการบัญญัติกฎหมายโดยเฉพาะในด้านนี้ ได้เพียงต้องปฏิบัติตามหลักการให้ความคุ้มกันต่อสินทรัพย์ของต่างประเทศ ทำให้ชาวจีนยากที่จะฟ้องร้องบุคคลหรือหน่วยงานต่างประเทศขึ้นศาลของจีน จึงไม่สามารถได้รับสิทธิประโยชน์ที่ชอบธรรมตามกฎหมาย และศาลของจีนก็ไม่สามารถตัดสินคดีเหล่านี้ เนื่องจากไม่มีกฎหมายอ้างอิง
(Yim/Lin/Zhou)