วันที่ 25 พฤษภาคม ตามเวลาท้องถิ่น จอร์จ ฟลอยด์ ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาวกดลงกับพื้น แล้วมีตำรวจอีกนายหนึ่งใช้เข่ากดลงที่คอของเขาเป็นเวลาหลายนาทีจนในที่สุดเขาได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดการจลาจลขนาดใหญ่ทั่วสหรัฐฯ ในขณะที่การระบาดของโควิด-19 ทำให้มีชาวอเมริกันเสียชีวิตจำนวนเกินกว่า 100,000 คน เหตุการณ์ครั้งนี้เท่ากับเป็นการเพิ่มความไม่พอใจให้กับคนอเมริกัน และเปิดโปงให้เห็นรอยร้าวของการเหยียดสีผิวของสหรัฐฯ อีกครั้ง
หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้เดินขบวนประท้วงจำนวนมากที่เมืองมินนีแอโพลิส ในรัฐมินนิโซตาของสหรัฐฯ ได้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างรุนแรง อีกทั้งก่อให้เกิดเหตุปล้นชิงทรัพย์ จุดไฟเผาหลายราย รวมถึงในอีกหลายท้องที่ของสหรัฐฯ เช่น รัฐนิวยอร์กก็มีการเดินขบวนประท้วงคัดค้านการเหยียดสีผิวด้วย
ผลการวิจัยที่เกี่ยวข้องแสดงให้เห็นว่า ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา การยกย่องให้คนขาวเป็นผู้อยู่เหนือเชื้อชาติอื่นๆ ภายในสหรัฐฯ สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้สังคมเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและเป็นปรปักษ์ซึ่งกันและกัน ความไม่พอใจและความโกรธแค้นของกลุ่มคนชั้นล่างในสหรัฐฯเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในการะบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อสหรัฐฯ อย่างรุนแรงในครั้งนี้ ทำให้กลุ่มคนผิวสีที่ถูกเหยียดหยามเป็นทุน ตกเป็นช่องทางระบายข้อขัดแย้งที่เกิดจากความไม่พอใจของประชาชนต่อมาตรการป้องกันควบคุมโควิด-19 ของรัฐบาลสหรัฐฯ
นอกจากนั้น รัฐบาลสหรัฐฯ ยังได้บังคับส่งผู้อพยพที่ผิดกฎหมายจากเม็กซิโกและประเทศลาตินอเมริกากลางกลับประเทศ ซึ่งเป็นการเพิ่มแรงกดดันด้านการป้องกันโควิด-19 ในภูมิภาคลาตินอเมริกา
แต่การกระทำเหล่านี้ของนักการเมืองสหรัฐฯ ไม่สามารถช่วยต้านไวรัส กลับทำให้สภาพเหยียดผิวภายในสังคมสหรัฐฯ ร้ายแรงยิ่งขึ้น การเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์และการเดินขบวนประท้วง ตลอดจนการปล้นทรัพย์จุดไฟเผาที่เกิดขึ้นในท้องที่ต่างๆ ของสหรัฐฯ คงยากที่จะแยกออกจากการกระทำหรือคำพูดที่เคยพูดไว้ของบรรดานักการเมืองสหรัฐฯ (Bo/Lin/Zhou)