วันที่ 8 มิถุนายน นักเรียนชั้นประถมปีที่ 4 และปีที่ 5 ของกรุงปักกิ่งได้กลับเข้าชั้นเรียนอีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้นักเรียนชั้นประถมปีที่ 6 และนักเรียนชั้นมัธยมได้กลับเข้าเรียนเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งกรมการศึกษาของกรุงปักกิ่งกำหนดให้นักเรียนกลับเข้าเรียนตามลำดับ ชั้น และในอีกไม่กี่วัน นักเรียนชั้นประถมปีที่ 1 และ 2 ตลอดจนนักเรียนชั้นอนุบาลก็จะกลับเข้าเรียนตามปกติ
เนื่องจากการระบาดของโควิด19 ทำให้โรงเรียนของจีนส่วนมากต้องเลื่อนเวลาปิดภาคเรียนฤดูหนาวออกไปหลายเดือน ซึ่งเดิมจะต้องเปิดภาคเรียนฤดูใบไม้ผลิในเดือนกุมภาพันธ์ แต่ปีนี้มาถึงฤดูร้อนแล้ว นักเรียนจะเข้าเรียนอีกเดือนกว่าๆ แล้วก็จะเข้าสู่ช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน จะมีวันหยุดอีกประมาณ 40 วัน ต้องถือว่าภาคเรียนฤดูใบไม้ผลิของปี 2020 เป็นภาคเรียนที่สั้นที่สุดในประวัติศาสตร์ที่มีระยะเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น
เด็กๆ บอกว่า ไม่อยากอยู่ที่บ้านแล้ว ไม่อยากเรียนออนไลน์ คิดถึงครู คิดถึงเพื่อนๆ คิดถึงโรงเรียน คิดถึงความรู้สึกที่นั่งเรียนในห้องเรียน เบื่อการอยู่บ้าน ส่วนพ่อแม่ผู้ปกครองก็บอกว่า เมื่อไหร่จะส่งเด็กเข้าเรียนตามปกติ อยู่บ้านต่อไม่ไหวแล้ว มีคนจำนวนไม่น้อยเสนอให้โรงเรียนจัดการเรียนการสอนในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน อ้างว่า อยากให้ชดเชยชั่วโมงเรียนที่ขาดไป แต่ทางการกำหนดอย่างชัดเจนแล้วว่า ปีนี้ ไม่มีการจัดการเรียนการสอนในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองผิดหวังไปตามตามกัน
ก่อนกลับเข้าเรียนอย่างเป็นทางการ ทางกรมการศึกษาของกรุงปักกิ่งกำหนดให้นักเรียนทุกคนต้องเข้ารับการตรวจกรดนิวคลิอิก ซึ่งทางรัฐบาลจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ก่อนรับการตรวจ ครูจะส่งข้อความถึงพ่อแม่ผู้ปกครอง เตือนให้ช่วยเตรียมสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้ เช่นถุงพลาสติก เผื่อนักเรียนรับการตรวจแล้วไม่สบายอาเจียน และเตือนให้พ่อแม่ผู้ปกครองทราบว่าเมื่อส่งลูกเข้ารับการตรวจต้องรออยู่ข้างนอก ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย อย่าคุยกัน อย่าก้มหน้าดูแต่มือถือ เมื่อลูกตรวจเสร็จแล้วพาลูกกลับบ้านทันที และทุกคนยืนห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร เมื่อตรวจแล้วผลเป็นลบ นักเรียนก็จะสามารถกลับเข้าเรียนได้ตามปกติแล้ว
ในวันแรกที่เปิดเรียนชั่วโมงแรกของโรงเรียนฉงเหวินคือ “ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค” แนะนำให้เด็กๆ มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องต่อการแพร่ระบาดของโรคและชีวิต ครูบอกว่า อยู่บ้านนานขนาดนี้เมื่อกลับเข้าเรียนแล้ว เด็กๆ ทั้งตื่นเต้น และเครียดด้วย บางคนไม่ชินกับชีวิตในโรงเรียนแล้ว ทั้งนี้ ต้องการทั้งครูและพ่อแม่ผู้ปกครองร่วมกันช่วยเหลือ
ในโรงเรียนทุกแห่งได้เตรียมอุปกรณ์วัดอุณหภูมิร่างกาย หน้ากากอนามัย ชุดป้องกัน น้ำยาฆ่าเชื้อ ห้องพยาบาลฉุกเฉิน ห้องให้คำปรึกษาทางจิต และสิ่งของที่จำเป็นอื่นๆ เป็นที่เรียบร้อย และจะมีครูหลายคนร่วมกันคอยดูแลเรื่องการเข้าห้องน้ำ การรับประทานอาหาร และการออกกำลังกาย นอกจากนี้ ยังมีตำรวจร่วมกับ รปภ.ดูแลนักเรียน เพื่อรับประกันความปลอดภัยของนักเรียนทุกคน
