สืบเนื่องจากสหรัฐฯได้ผ่านร่างกฎหมายนโยบายสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์ปี 2020 นั้น เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน กระทรวงการต่างประเทศจีนได้ประกาศแถลงการณ์ว่า กฎหมายที่ว่านี้ จงใจใส่ร้ายสภาพที่เป็นจริงเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในเขตซินเจียงของจีน โจมตีนโยบายการบริหารจัดการเขตซินเจียงของจีน ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและหลักการพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อีกทั้งเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีน รัฐบาลจีนและประชาชนจีนคัดค้านและไม่พอใจอย่างรุนแรง

แถลงการณ์ชี้ว่า ปัญหาเขตซินเจียงไม่ใช่ปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน หรือชนเผ่าและศาสนา แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับการต่อต้านความรุนแรงและการก่อการร้าย การต่อต้านกลุ่มแบ่งแยกดินแดน เขตซินเจียงเคยตกอยู่ท่ามกลางลัทธิหัวรุนแรง ลัทธิใช้ความรุนแรงและการก่อการร้าย  ความมั่นคงด้านชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเผชิญกับภัยคุกคามอย่างหนัก เขตซินเจียงได้ดำเนินมาตรการต่างๆ ในการปราบปราบและการปกป้อง สอดคล้องต่อกฎหมายของประเทศจีน อีกทั้งยังเป็นการปฏิบัติตามข้อริเริ่มต่อต้านการก่อการร้ายและขจัดลัทธิหัวรุนแรงของประชาคมโลกให้เป็นจริง

หลายปีมานี้ การดำเนินงานในด้านต่างๆของเขตซินเจียง ได้ควบคุมการขยายอิทธิพลของลัทธิหัวรุนแรงและการก่อการร้ายอย่างมีประสิทธิภาพ พิทักษ์ความเป็นเอกภาพ ความมั่นคงของประเทศชาติ ประกันสิทธิการดำเนินชีวิต สิทธิด้านสุขอนามัย สิทธิการพัฒนาและสิทธิขั้นพื้นฐานต่างๆ ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เขตซินเจียงไม่ได้เกิดเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงและการก่อการร้ายแม้ครั้งเดียว ชนเผ่าต่างๆในเขตซินเจียงมีความสามัคคีและเสมอภาค ศาสนาได้รับความเคารพ ประชาคมโลกต่างให้ความชื่นชมต่อนโยบายการบริหารจัดการเขตซินเจียงของรัฐบาลจีน

แถลงการณ์ยังระบุว่า จีนขอกำชับกับสหรัฐฯว่า กิจการเขตซินเจียงเป็นกิจการภายในของจีน ประเทศอื่นๆ ไม่สามารถเข้ามาแทรกแซงได้ รัฐบาลและประชาชนจีนมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะพิทักษ์รักษาอำนาจอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์การพัฒนาของประเทศชาติ และขอเตือนสหรัฐฯอีกครั้งว่า หยุดกระทำผิด หยุดใช้กฎหมายแทรกแซงเขตซินเจียง เพื่อมุ่งทำลายผลประโยชน์และก้าวก่ายกิจการภายในของจีน มิฉะนั้น จีนจะทำการโต้กลับอย่างแน่นอน และผลที่ตามมาทั้งหมด สหรัฐฯจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ

(Yim/Zi)