เมื่อเร็ว ๆ นี้ บุคคลสำคัญทางการเมือง นักวิชาการทั้งจีนและประเทศอาหรับ ร่วมการประชุมทางไกลภายใต้หัวข้อ “ ความร่วมมือระหว่างจีน-ตะวันออกกลางภายใต้สถานการณ์โรคระบาด :มิตรภาพดั้งเดิมและสร้างสรรค์อนาคตร่วมกัน ” มีการหารือเกี่ยวกับประสบการณ์ในการร่วมมือต่อต้านโรคระบาดของทั้งสองฝ่าย และแผนการความร่วมมือหลังการแพร่ระบาด ผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ต่างมีความเห็นว่าหลังจากจีนและประเทศอาหรับต่อต้านกับโควิด-19 เคียงบ่าเคียงไหล่ ทำให้ความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสองฝ่ายมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น มิตรภาพระหว่างประชาชนยิ่งสนิทแนบแน่นยิ่งขึ้นและอนาคตความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายก็สดใสมากขึ้น
นายจ๋าย จวิ้น ผู้แทนพิเศษของจีนเกี่ยวกับปัญหาตะวันออกกลางกล่าวในกิจกรรมดังกล่าวว่า จนถึงทุกวันนี้ประเทศจีนได้ช่วยเสนอสิ่งของป้องกันโรคระบาดต่าง ๆ เช่น ชุดตรวจโรคจำนวนกว่า 1 ล้านชุด หน้ากากอนามัยจำนวนกว่า 13 ล้านชิ้น เป็นต้น ให้กับประเทศภูมิภาคตะวันออกกลาง พร้อมได้จัดการประชุมทางไกลระหว่างผู้เชี่ยวชาญจีนและผู้เชี่ยวชาญของ 22 ประเทศและภูมิภาค จัดส่งทีมเจ้าหน้าที่นายแพทย์ไปยัง 8 ประเทศ นอกจากนี้แล้วประเทศจีนยังร่วมมือกับประเทศยูเออีเริ่มต้นการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 สำหรับวัคซีนโควิด-19 ซึ่งนับเป็นการทดลองระยะที่ 3 แห่งแรกในโลก
ทั้งนี้ นาย Moustapha Saphariny อดีตเอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำประเทศจีนกล่าวว่า “จีนได้แบ่งปันประสบการณ์ทั้งหมดกับประเทศอาหรับอย่างไม่ปิดบัง เสนอความช่วยเหลือต่อประเทศอาหรับทุกประเทศ แสดงให้เห็นอย่างจัดเจนว่า จีนและประเทศอาหรับเป็นประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน ”
ขณะนี้ ประเทศจีนและประเทศอาหรับต่างกำลังเผชิญหน้ากับการจัดการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และงานการฟื้นฟูการผลิตและการทำงาน ดังนั้นการแสวงหาโอกาสความร่วมมือใหม่ๆ ท่ามกล่างกระบวนการร่วมมือต่อต้านโรคระบาด ขับเคลื่อนการร่วมสร้างสรรค์ประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างจีน-อาหรับ จึงเป็นวาระที่สำคัญต่อผู้คน สิ่งที่น่าสังเกตอย่างหนึ่งคือ ช่วงเกิดสถานการณ์โรคระบาด อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว ในอนาคตสองฝ่ายสามารถแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ทางด้านอีคอมเมิร์ซ อีเลิร์นนิ่ง การรักษาพยาบาลทางไกล เพื่อพัฒนาเป็นจุดเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่ ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างจีน-อาหรับให้พัฒนาไปไกลยิ่งขึ้น
(Bo/Zi)