เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศุลกากรจีนประกาศข้อมูลการนำเข้า-ส่งออกล่าสุดว่า ครึ่งแรกของปีนี้ ยอดการนำเข้า-ส่งออกของจีนอยู่ที่ 14.24 ล้านล้านหยวน แม้จะลดลง 3.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่เมื่อเทียบกับยอดการนำเข้า-ส่งออกจีนในใตรมาสแรกของปีนี้ ได้หดแคบลง 3.3% โดยเฉพาะตั้งแต่เดือนเมษายนปีนี้เป็นต้นมา การส่งออกจีนบรรลุการเติบโตเชิงบวกติดต่อกัน 3 เดือน และในช่วงเดือนมิถุนายน การส่งออกจีนได้เพิ่มขึ้น 4.3% การนำเข้าเพิ่มขึ้น 6.2% โดยยอดการนำเข้า-ส่งออกของจีนมีการเติบโตเชิงบวกเป็นครั้งแรกในปีนี้ แสดงให้เห็นว่า การค้าต่างประเทศจีนในครึ่งแรกปีนี้ แม้จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ก็มีสภาพดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ มีการฟื้นฟูตามลำดับในภาพรวม สะท้อนให้เห็นผลจากความพยายามของรัฐบาลจีนในการรักษาความมั่นคงด้านการค้าต่างประเทศ
อนึ่ง เหตุผลหลักที่การค้าต่างประเทศของจีนได้รับการฟื้นฟูมี 2 ด้านสำคัญ ด้านหนึ่งคือ พร้อมไปกับประเทศจีนได้ควบคุมสถานการณ์โรคระบาดภายในประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ จึงฟื้นฟูการผลิตและการทำงานได้รอบด้าน ตลาดภายในประเทศจึงฟื้นคืนความต้องการต่อสินค้าต่างประเทศ กระตุ้นให้เกิดการนำเข้า โดยเฉพาะยอดการนำเข้าสินค้ารายใหญ่และสินค้าการเกษตรสำคัญ มีการเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อีกด้านคือ การส่งออกสิ่งของป้องกันโรคระบาด และผลิตภัณฑ์ในยุคเศรษฐกิจ “ทำงานที่บ้าน” ก็มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์สข้ามชาติหนึ่งในการค้ารูปแบบใหม่ที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ได้มีบทบาทสำคัญต่อบริษัทค้าต่างประเทศของจีน ในการรับมือกับผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาด นอกจากนี้ การสนับสนุนทางนโยบายของรัฐบาลจีน ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญต่อการฟื้นฟูการค้าต่างประเทศของจีน
แต่เนื่องจากขณะนี้ สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงมีความรุนแรงในขอบเขตทั่วโลก แนวการพัฒนาของเศรษฐกิจโลกชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด ความต้องการทางตลาดของโลกก็ลดน้อยลง ดังนั้น การค้าต่างประเทศของจีนยังคงเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอนและไม่มั่นคง ครึ่งหลังของปีนี้ การนำเข้า-ส่งออกของจีน จึงยังคงต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ซับซ้อนต่อไป
(Yim/Zi)