ช่วงเช้าวันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา “หลิน ตัน” ตำนานนักแบดมินตันชื่อดังของจีน วัย 36 ปี ซึ่งได้ฉายาว่า "ซูเปอร์ตัน" ประกาศเลิกเล่นเป็นทางการว่าตัดสินใจที่จะขอจบอาชีพนักแบดมินตัน 20 ปีของตน ถือเป็นการสิ้นสุด 4 คิงส์ในวงการแบดมินตันโลก หลังจาก เทาฟิค ฮิดายัต จากอินโดนีเซีย ปีเตอร์ เกด จากเดนมาร์ก และ ลี ชองเหว่ย จากมาเลเซีย ที่พึ่งเลิกไปเมื่อปีที่แล้ว และ ลี ชองเหว่ย ซึ่งเป็นคู่แข่งที่ถูกยกให้เป็นตำนานร่วมกับหลิน ตัน เคยพูดล้อเล่นว่า “สามคนรอคุณมานานแล้ว ” จริง ๆ แล้ว ทุกครั้งเมื่อพูดถึงหลิน ตัน แฟนจีนก็นึกถึง CP ของเขา ลี ชองเหว่ย หลายคนชอบเรื่องราวของสองคนคู่นี้จนกล่าวว่า พวกเขามีความรักที่แท้จริง
หลิน ตัน นักแบดมินตันชื่อดังของโลก คว้าเหรียญทองโอลิมปิกชายเดี่ยว 2 สมัย จากการแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์โลก 5 สมัย ก็เป็นกำลังสำคัญพาทีมจีนคว้าแชมป์โธมัสคัพ 6 สมัย ทีมผสมชิงแชมป์โลกสุธีรมานคัพ 5 สมัย หลิน ตัน คว้าแชมป์เกือบทุกรายการในระดับเยาวชนก่อนเทิร์นโปรในปี 2003 และก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นระดับท็อปของจีน ซึ่งขึ้นมาเป็นผู้เล่นอาชีพได้เพียงปีเดียว เขาก็ติดทีมชาติจีนไปแข่งโอลิมปิกปี 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ และได้รับฉายา ซูเปอร์ตัน (Super Dan) จากปีเตอร์ เกด ตำนานลูกขนไก่ชาวเดนมาร์ก โดยเป็นที่นิยมเรียกกันจนถึงทุกวันนี้
ส่วนลี ชองเหว่ย เป็นนักแบดมินตันที่ยิ่งใหญ่ เป็นผู้ครองสถิติอันดับ 1 ของโลกรวมกัน 349 สัปดาห์ เรียกได้ว่าเขาเป็นหนึ่งในนักสู้แห่งสังเวียนแบดมินตันที่หาตัวจับยากในรอบหลายสิบปี แต่ในการแข่งขันระดับโลกที่มีความสำคัญมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเวิลด์ แชมป์เปี้ยนชิปส์ โอลิมปิก ลี ชองเหว่ยต้องพ่ายให้กับหลิน ตันเสมอ ไม่สามารถคว้าชัยชนะได้แม้แต่ครั้งเดียว เหตุนี้จึงทำให้เขาถูกขนานนามว่าเป็น “ราชันไร้มงกุฎ” กล่าวได้ว่า หลิน ตันเป็นคู่ปรับอันดับหนึ่งของลี ชองเหว่ย
หลิน ตัน กับ ลี ชอง เหว่ย นอกสนามคือเพื่อนที่ดีที่สุด แต่ในสนามต้องถือว่าต่างฝ่ายต่างเป็นคู่แข่ง ทั้งสองคนพบกันครั้งแรกในการแข่งขันโธมัสคัพส์ หรือศึกชิงแชมป์โลกประเภททีมชาย เป็น ลี ชอง เหว่ย แพ้หลิน ตันไปก่อน หลังจากนั้นเป็นต้นมาหาก ลี ชอง เหว่ย ต้องมาแข่งกับ หลิน ตัน ในสนาม ก็ไม่เคยได้รับชัยชนะแม้แต่ครั้งเดียว
แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนเคารพคือ ลี ชอง เหว่ย ไม่ได้หยุดพัฒนาตัวเอง พยายามอย่างมากที่จะเป็นแชมป์โลก หรือเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกให้ได้ ในเวลานั้นมีสื่อกล่าวว่า ลี ชอง เหว่ยเป็นได้แค่รองแชมป์ตลอดกาลหาก หลิน ตัน ลงแข่งด้วย แต่จริง ๆ ไม่มีใครพูดได้ว่า ลี ชอง เหว่ย เก่งไม่เท่า หลิน ตัน
ในปี 2018 ลี ชอง เหว่ยถูกตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งโพรงจมูก เขาประกาศเลิกเล่นแบดมินตัน โดยกล่าวว่า "มันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่ผมไม่มีทางเลือก ร่างกายของผมไม่เหมาะที่จะทำกิจกรรมหนัก ๆ " และเมื่อลี ชอง เหว่ยแถลงข่าวเลิกเล่น เสียใจจนร้องไห้ออกมา ทำให้ หลิน ตัน ที่รู้ข่าวรีบโพสต์คลิปเพลง Don't Cry ผ่านโซเชียลมีเดีย ให้กับ ลี ชอง เหว่ย
เช้าวันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา หลิน ตันประกาศเลิกเล่นอย่างเป็นทางการผ่านโซเชียลมีเดียว่า "ปี 2000-2020 หลังจาก 20 ปี ผมต้องขออำลาทีมชาติ มันยากเหลือเกินที่จะเอ่ยเป็นคำนี้ เมื่อปี 2000 ผมตื่นเต้นและภูมิใจที่ได้เป็นสมาชิกทีมชาติจีน ผมทุ่มเททุกอย่างให้กีฬาที่ผมรัก ครอบครัว สตาฟฟ์โค้ช เพื่อนร่วมทีม และแฟนๆ จับมือกับผมผ่านช่วงเวลาแห่งความสุขและทุกข์ด้วยกันมามากมาย " “ขอบคุณคู่แข่งที่ยอดเยี่ยมที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผม ” ลี ชองเหว่ยรีบโพสต์ว่า “สามคนรอคุณมานานแล้ว ภูมิใจกับคุณ” ทำให้แฟน ๆ อิจฉามิตรภาพระหว่างพวกเขามาก
ลี ชองเหว่ย กับหลิน ตัน ล้วนเป็นนักกีฬาที่มีเกียรติ และโชคดี ไม่เพียงแต่มีผลงานที่ยอดเยี่ยม แต่ยังเป็นคู่แข่งที่ดีที่สุดและเพื่อนที่ดีที่สุด ความสำเร็จของพวกเขาได้มาจากความพยายามอย่างต่อเนื่อง
