ขณะนี้ ทั่วโลกมีวัคซีนต้านโควิดจำนวนกว่าร้อยชนิด ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบ และมีหวังจะใช้จริงในอีกไม่นานนี้ ประเทศพัฒนาเช่น สหรัฐฯและยุโรปพากันลงนามข้อสัญญาสั่งซื้อกับบริษัทผลิตยา เพื่อเป็นหลักประกันให้สนองวัคซีนภายในประเทศตนก่อนที่อื่น แต่การกระทำที่เน้น “ประเทศตนต้องมาก่อน” นี้ ย่อมจะเพิ่มบรรยากาศ “วัคซีนชาตินิยม” ให้เข้มข้นยิ่งขึ้น ทำให้ประเทศที่ร่ำรวยพากันเก็บสะสมวัคซีนต้านโควิด แต่ประเทศที่ยากจนเป็นไปได้ยากที่จะเข้าถึงวัคซีน
วันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา รัฐบาลอังกฤษลงนามข้อสัญญาสนองวัคซีนต้านโควิดกับบริษัทผลิตยา 2 แห่งของสหรัฐฯ โดยจะสั่งซื้อวัคซีนรวมประมาณ 90 ล้านหลอด บริษัทสองแห่งนี้คือ บริษัทผลิตยาเจนส์เซน (Janssen) ในสังกัดบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และบริษัทยาโนวาแว็กซ์
วารสาร “วิทยาศาสตร์(Science)” ของสหรัฐอเมริกาออกบทความชี้ให้เห็นว่า เมื่อเผชิญหน้ากับความต้องการมหาศาลจากทั่วโลก วัคซีนต้านโควิดจำนวนแรกคงซื้อได้ยากยิ่ง เพราะสหรัฐฯ และประเทศยุโรปได้จองไว้หลายร้อยล้านหลอดแล้ว ส่วนที่เหลือถึงประเทศยากจนนั้นคงน้อยมาก
วันที่ 18 สิงหาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกกล่าวว่า ได้เชิญชวนสมาชิกทั้งหมดขององค์การอนามัยโลก ให้เข้าร่วมโครงการร่วมแบ่งปันวัคซีนต้านโควิด(covax) ขณะเดียวกัน สหภาพยุโรป สหรัฐฯ อังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ และองค์การระหว่างประเทศบางแห่ง ก็กำลังลงนามข้อสัญญากับบริษัทผลิตยาต่างๆ ที่กำลังทดลองวัคซีนต้านโควิดอยู่
(Yim/Lin/Zhou)