วันที่ 27 สิงหาคม นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวในงานแถลงข่าวว่า นักการเมืองอเมริกันบางคนใช้หน้ากากความมั่นคงแห่งชาติและอำนาจรัฐในทางที่ผิดปราบปรามบริษัทนอกสหรัฐฯ อย่างไม่มีเหตุผล พฤติกรรมโจรสลัดของสหรัฐฯ เช่นนี้สร้างความเสียหายต่อสิทธิและผลประโยชน์ของผู้บริโภค รวมถึงธุรกิจในประเทศต่าง ๆ รวมทั้งของสหรัฐฯ เอง ซึ่งจะได้รับการต่อต้านจากประชาคมระหว่างประเทศ
ตามรายงานของหอการค้าอเมริกัน เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่ระบุถึงผลสำรวจบริษัทอเมริกันในจีนแสดงให้เห็นว่า เกือบร้อยละ 90 ของ บริษัทเข้าร่วมการสำรวจเชื่อว่า การแบน WeChat ของรัฐบาลสหรัฐฯ จะส่งผลเสียต่อธุรกิจของตน มากกว่า 1 ใน 3 ของบริษัทที่เข้าร่วมการสำรวจเชื่อว่า การแบน WeChat อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อรายได้ทั่วโลกของตน
สำหรับเรื่องนี้ นายจ้าว ลี่เจียน ชี้ว่า “นักการเมืองอเมริกันบางคน ปราบปรามบริษัทนอกสหรัฐฯ รวมถึง WeChat ความจริง คือ ตีตราอคติทางอุดมการณ์ให้กับบริษัทที่ไม่ใช่ของสหรัฐฯ ใช้การกลั่นแกล้งทางเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบต่อบริษัทไม่ใช่ของสหรัฐฯ ที่มีความได้เปรียบในสาขาหนึ่ง ๆ”
นายจ้าว ลี่เจียน ชี้ว่า การกระทำเช่นนี้เป็นการลบล้างหลักการเศรษฐกิจระบบตลาดและหลักการแข่งขันที่เป็นธรรม ซึ่งถือเป็นหลักการที่สหรัฐฯ ยึดถือมาตลอด พร้อมกับเหยียบย่ำกฎระเบียบระหว่างประเทศ ทำลายการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือด้านนวัตกรรม วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีระหว่างประเทศ
"ในสายตาของคนเหล่านี้ สิ่งที่เรียกว่า ‘การเปิดเสรีอินเทอร์เน็ต’ เป็นการทำให้อินเทอร์เน็ตมีความเป็นอเมริกัน ที่เรียกว่า ‘ความมั่นคงแห่งชาติ’ ซึ่งเป็นข้ออ้างสองมาตรฐานของสหรัฐฯ นักการเมืองอเมริกันบางคนให้ผลประโยชน์ของตนเองอยู่เหนือหลักการของตลาดและกฎเกณฑ์สากล ทำให้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกตกอยู่ในภาวะความเสี่ยง ซึ่งสังคมโลกได้เห็นพฤติกรรมเช่นนี้อย่างชัดเจนแล้ว"
Tim/Patt/Zdan