วันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา การประชุมสมัชชาสหประชาชาติผ่านมติซึ่งเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกเสริมสร้างความสามัคคีและร่วมมือกันรับมือการระบาดของโควิด-19
มติดังกล่าว ระบุว่า การดำเนินความร่วมมือระหว่างประเทศ ปฏิบัติตามหลักพหุภาคีอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงสามัคคีช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เป็นหนทางเดียวที่จะรับมือโรคระบาดและวิกฤตทั่วโลกอื่น ๆ ได้ พร้อมกับเรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกใช้มาตรการถือประชาชนเป็นหลัก ให้ความสำคัญต่อความเท่าเทียมทางเพศและเคารพสิทธิมนุษยชนอย่างเต็มที่
มติดังกล่าวสนับสนุนข้อริเริ่มที่เสนอโดยเลขาธิการสหประชาชาติว่าด้วยการหยุดยิงในขอบเขตทั่วโลก ให้ความสำคัญต่อผลกระทบจากโรคระบาดในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งโดยใช้กำลังอาวุธ อีกทั้งยังสนับสนุนปฏิบัติการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ
มตินี้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิก รวมถึงผู้นำทางการเมือง และผู้นำทางศาสนา เป็นต้น ส่งเสริมความเข้าใจ ความสามัคคี ต่อต้านลัทธิเหยียดสีผิว การเกลียดกลัวชาวต่างชาติ คำพูดที่แสดงถึงความเกลียดชัง ตลอดจนการใช้ความรุนแรงและการเลือกปฏิบัติ มตินี้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกส่งเสริมระบบสาธารณสุขและระบบการดูแลทางสังคม ทุ่มเทเพื่อให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกมีสิทธิเข้าถึงการรักษาพยาบาลและได้รับวัคซีนรวมถึงยารักษาโรคในราคาไม่แพง สนับสนุนประเทศสมาชิกร่วมมือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพิ่มกองทุนวิจัยวัคซีนและยา อีกทั้งขับเคลื่อนความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
ขณะเดียวกัน มติดังกล่าวยังเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกร่วมมือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ดำเนินปฏิบัติการร่วมกันเพื่อรับมือผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาดที่มีต่อสังคมและเศรษฐกิจ อีกทั้งยังกำหนดยุทธศาสตร์การผ่านพ้นวิกฤต พยายามกลับเข้าสู่วงจรแห่งการบรรลุการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตลอดจนเร่งปฏิบัติตามวาระการพัฒนาอย่างยั่งยืนปี ค.ศ. 2030 ให้เป็นจริง
(Tim/Zi)