เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศจีนให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว CMG

2020-09-20 10:16:49 | CRI
Share with:

เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศจีนให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว CMG_fororder_e9a3c8db5d4b82d0da3a04f129edfdd_副本

วันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา  สถานเอกอัครราชทูตไทยได้จัดงานเฉลิมฉลองการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีนครบรอบ 45 ปีที่กรุงปักกิ่ง โอกาสนี้ นาย    อรรถยุทธ์ ศรีสมุทร เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศจีนได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CMG)เกี่ยวกับความสัมพันธ์ไทย-จีน การขจัดความยากจน และการท่องเที่ยว

ผู้สื่อข่าว    ท่านมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับความสัมพันธ์ไทย-จีนในช่วง 45 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่สองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเป็นต้นมามา                                                           

เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศจีน     ความจริง ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีนมีมานานเป็นพันปี ตั้งแต่สมัยราชธานีสุโขทัยก็ได้ส่งพระราชทูตมาเข้าเฝ้ากษัตริย์ของจีนในสมัยราชวงศ์ถัง ถือว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ยาวนาน ในช่วง 45 ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์มีความแน่นแฟ้นมากขึ้น เพราะว่าจีนมีพัฒนาการในด้านการพัฒนาประเทศ การขจัดความยากจน การดูแลทุกข์สุขของประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศไทยต้องการจะทำด้วย จึงมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมากขึ้น ไม่ว่าในเรื่องของการร่วมกันลงทุนทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน การสร้างถนนและทางรถไฟ ด้านสาธารณะสุขและโรงเรียน เป็นต้น ก็เป็นสิ่งที่เราแลกเปลี่ยนและมีความร่วมมือกันหลาย ๆ ด้าน คนจีนปัจจุบันก็นิยมไปประเทศไทย มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปประเทศไทยปีละเกือบ 11 ล้านคน มีนักท่องเที่ยวจากไทยมาจีนปีหนึ่งก็เกือบ 1 ล้านคน ซึ่งถือว่าเยอะมากสำหรับประชากรที่มีแค่ 65 ล้านคน ความสัมพันธ์ระดับผู้บริหารประเทศและระหว่างประชาชนเป็นความสัมพันธ์ที่มีความไว้เนื้อเชื่อใจกัน เข้าใจกัน อยู่บนพื้นฐานของการเคารพในความเป็นอยู่ ความร่วม ต่างก็มีความตั้งใจที่จะให้มีความร่วมมือมากยิ่งขึ้นในอนาคต

เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศจีนให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว CMG_fororder_4f75f69ff35d632dbc9be325fa941fb_副本

ผู้สื่อข่าว   เมื่อเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 ประชาชนจีน-ไทยให้การสนับสนุนซึ่งกันและกันทั้งด้านการเมืองและสิ่งของ ท่านเห็นว่าสองประเทศควรกระชับความร่วมมืออย่างไรเพื่อต้านโควิด-19

เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศจีน   จีนถือว่าประสบความสำเร็จมากในการควบคุมการแพร่ขยายของโรคโควิด-19 มีการค้นคว้าในเรื่องของยารักษาและป้องกันการแพร่ขยาย ประเทศไทยก็ประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ขยายด้วย และมีการค้นคว้าวิจัยด้วยเช่นกัน ได้รับการยอมรับในเวทีโลกว่า ระบบสาธารณสุขเป็นระบบที่มีความโดดเด่น สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคนี้ได้ คิดว่าเราสามารถร่วมมือกัน จีนได้แจ้งมาแล้วว่า จีนพร้อมที่จะเปิดกว้าง ให้ทางฝ่ายไทยได้รับทราบข้อมูลต่าง ๆ ผลการวิจัยต่าง ๆ รวมทั้งร่วมกันวิจัยค้นคว้าในเรื่องวัคซีน เราต้องส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันมากขึ้น ทั้งในระดับหมอพยาบาล และในระดับนักวิทยาศาสตร์ของสองประเทศ  เป็นสิ่งที่ดีที่ทั้งประเทศไทยและจีนไม่ได้เจอปัญหาของการแพร่ขยายโรคโควิคในขั้นที่รุนแรงเท่ากับประเทศอื่น และสามารถดูแลในเรื่องของการค้นคว้าวิจัยและร่วมมือกันมากขึ้น เพื่อสร้างกรอบคุ้มกันให้ระบบสาธารณสุขของแต่ละประเทศมีความเข้มแข้งมากขึ้น

เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศจีนให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว CMG_fororder_7399461c308d58dd251d61aa4e389f1_副本

ผู้สื่อข่าว  การระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อกิจการท่องเที่ยวไทยอย่างมาก ในอนาคตไทยมีแผนที่จะพัฒนากิจการท่องเที่ยวอย่างไร

เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศจีน    กิจการท่องเที่ยวของประเทศไทยพยายามเน้นในเรื่องของธรรมชาติมากขึ้น เรื่องของความยั่งยืน พยายามจัดการไม่ให้สถานที่ท่องเที่ยวมีคนเข้าไปมากเกินไป รักษาระยะห่างพอสมควร ดูแลเรื่องของคุณภาพ นำเรื่องของนิเวศวิทยา เรื่องของสิ่งแวดล้อม เรื่องของความยั่งยืน เข้ามาผสมประสานกับเรื่องของการท่องเที่ยว จีนประสบความสำเร็จในเรื่องนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ซึ่งมีบรรยากาศที่ดี และก็มีความห่างไกลกัน ทำให้ไม่ได้มีการเข้าไปชมอย่างแออัด ก็เป็นสิ่งที่ทั้งสองประเทศสามารถที่จะร่วมมือกันได้ ส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนมากขึ้น

เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศจีนให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว CMG_fororder_9a1b2ee8e7a9df53cda618b3e77a812_副本

ผู้สื่อข่าว  ปี 2020 ถือเป็นปีที่มีความหมายสำคัญอย่างยิ่งสำหรับประเทศจีน เพราะว่าจีนตั้งเป้าว่าจะให้เป็นปีแห่งการบรรลุซึ่งสังคมอยู่ดีมีสุขและปีให้หลุดพ้นความยากจนอย่างสิ้นเชิง ท่านมีความเห็นอย่างไรต่อการนี้

เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศจีน  จีนประสบความสำเร็จในระยะเวลาอันสั้นมากในการขจัดความยากจน ประชากร 600 ล้านคนสามารถหลุดพ้นจากภาวะความยากจนภายในช่วงเวลา 30 ปี เป็นช่วงเวลาที่ไวมาก ก็เป็นสิ่งที่ประเทศไทยได้ดำเนินการด้วย ประเทศไทยก็มีนโยบาย มีโครงการเร่งพัฒนาประเทศและขจัดความยากจนในประเทศพอสมควร โชดดีที่ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลก็สามารถหาอาหาร ปลูกพืชผัก เลี้ยงตัวเองได้ แต่จีนมีความสำเร็จในการพัฒนาระดับเมือง ระดับอุตสาหกรรมด้วย สามารถให้คนมีรายได้ที่ดีขึ้น คนเมื่อก่อนมีรายได้ไม่สามารถซื้อรถ ไม่สามารถมีที่อยู่อาศัย ปัจจุบันนี้มีที่อยู่อาศัยหลายแห่ง มีรถยนต์หลายคัน สามารถส่งลูกหลานไปเรียนในเมืองนอกในต่างประเทศได้ ก็ถือว่าเป็นการดำเนินการที่สำเร็จ ซึ่งทั้งจีนและไทยน่าจะร่วมมือกัน เพราะเราก็มีลักษณะโครงสร้างของสังคมที่ใกล้เคียงกัน สามารถที่จะเรียนรู้จากกันได้

  • เสียงข่าวประจำวัน (15-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (15-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (15-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (14-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (14-11-2567)

周旭