สำนักข่าวซินหวารายงานว่า ค่ำวันที่ 30 กันยายน คณะรัฐมนตรีจีนจัดงานเลี้ยงฉลองที่มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง เนื่องในโอกาสครบรอบ 71 ปีสาธารณรัฐประชาชนจีนสถาปนาขึ้น นายสี จิ้นผิง นาย หลี่ เค่อเฉียง และผู้นำพรรคและรัฐบาลระดับประเทศคนอื่นๆ พร้อมทั้งแขกผู้มีเกียรติจากทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ รวมประมาณ 500 คนได้เข้าร่วมในงานครั้งนี้
นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวในงานว่า ปีนี้เป็นปีที่ไม่ธรรมดาในประวัติศาสตร์ของสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน และเศรษฐกิจโลกทรุดตัว จีนภายใต้การนำที่เข้มแข็งของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีสหายสี จิ้นผิง เป็นแกนนำ ได้ประสานการป้องกัน ควบคุมการระบาดของโควิด-19 ควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม ได้ถือความปลอดภัยทางด้านชีวิต และสุขภาพของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกมาโดยตลอด ได้บรรลุการฟื้นฟูขึ้นทางเศรษฐกิจ การขจัดความยากจนก็ได้ประสบความคืบหน้ามากขึ้นที่เห็นได้ชัด ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนมีหลักประกันมากขึ้นเช่นกัน
นายกฯหลี่ เค่อเฉียงกล่าวด้วยว่า ต้องปฏิบัติตามมาตรการระยะยาวในการป้องกัน และควบคุมการระบาดของโรค ช่วยให้ธุรกิจและบริษัทต่างๆ ผ่านพ้นความยากลำบากต่างๆ สนับสนุนให้เกิดพลังขับเคลื่อนใหม่ของการพัฒนาเศรษฐกิจ ส่งเสริมรูปแบบการพัฒนาใหม่ และขับเคลื่อนการพัฒนาที่มีคุณภาพในระดับสูง นอกจากนี้ ยังต้องพยายามเพิ่มโอกาสการมีงานทำผ่านทุกวิถีทาง รวมทั้งต้องเร่งทำงานแก้ไขประเด็นปัญหาที่ประชาชนให้ความสนใจ เช่น การเข้าเรียนของเด็ก การรักษาพยาบาล การสงเคราะห์คนชรา และการดูแลเด็กอนุบาล
นายกฯหลี่ เค่อเฉียงชี้ ต้องลงลึกการปฏิรูปอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ทำให้ตลาดมีชีวิตชีวา และสังคมมีทักษะในการประดิษฐ์คิดสร้างสรรค์มากขึ้น รวมทั้งต้องสร้างสภาวะแวดล้อมในการประกอบธุรกิจที่ดีขึ้น และมีการเปิดสู่ภายนอกที่มีระดับสูงขึ้น
นายกฯหลี่ เค่อเฉียง กล่าวว่า เราจะปฏิบัติตามนโยบาย “หนึ่งประเทศสองระบบ” “ชาวฮ่องกงบริหารฮ่องกง” “ชาวมาเก๊าบริหารมาเก๊า” และมีการปกครองตนเองในระดับสูงสำหรับฮ่องกงและมาเก๊า อย่างรอบด้านและถูกต้องต่อไป จะดำเนินงานทุกอย่างตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายพื้นฐานอย่างเข้มงวด อีกทั้งยังจะปรับปรุงระบบและกลไกที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญ และกฎหมายพื้นฐาน เพื่อประกันให้นโยบาย “หนึ่งประเทศสองระบบ” ประสบความสำเร็จมากขึ้น
นายกฯหลี่ เค่อเฉียงเน้นว่า จะต้องยึดหลักการและนโยบายหลักในการทำงานเกี่ยวกับไต้หวัน จะยืนหยัดในหลักการจีนเดียว และ “ความเห็นพ้องต้องกันปี 1992” คัดค้านและยับยั้งการเคลื่อนไหว และการแทรกแซงจากภายนอกใดๆ ที่จะให้ไต้หวันเป็นเอกราช จะเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน ส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์กัน เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างสันติ การพัฒนาอย่างผสมผสาน และความเป็นเอกภาพของประเทศชาติ จะยืนหยัดเดินบนหนทางการพัฒนาอย่างสันติ ปกป้องอธิปไตย ความมั่นคง และประโยชน์การพัฒนาของประเทศชาติอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ พร้อมทั้งจะยึดแนวความคิดประชาคมมนุษย์ที่มีอนาคตร่วมกัน ร่วมมือกับประชาคมโลก เพื่อสร้างคุณูปการมากขึ้นแก่การเอาชนะโควิด-19 โดยเร็ว และการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก
นายกฯหลี่ เค่อเฉียง ทิ้งท้ายว่า ภายใต้การนำของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ที่มีสหายสี จิ้นผิงเป็นแกนนำ ประชาชนทั่วประเทศจีนจะผนึกกำลังมากขึ้น ชูธงอันยิ่งใหญ่แห่งสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์ของจีน ขจัดความยากลำบางต่างๆ และก้าวหน้าต่อไป บากบั่นต่อสู้อย่างไม่ลดละ เพื่อสร้างสรรค์จีนให้เป็นประเทศสังคมนิยมที่เข้มแข็ง ทันสมัย มีความเจริญรุ่งเรือง มีระบบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ มีวัฒนธรรมที่ก้าวหน้า มีความกลมกลืน และสวยงาม พร้อมทั้งให้ความฝันจีนในการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของประชาชาติจีนปรากฏเป็นจริงขึ้น
(yim/cai)