ปธน.จีนกล่าวปราศรัยสำคัญในการประชุมระดับสูงสหประชาชาติ รำลึก 25 ปี การประชุมสตรีโลกที่กรุงปักกิ่ง

2020-10-02 14:30:45 | CRI
Share with:

ปธน.จีนกล่าวปราศรัยสำคัญในการประชุมระดับสูงสหประชาชาติ รำลึก 25 ปี การประชุมสตรีโลกที่กรุงปักกิ่ง_fororder_1

วันที่ 1 ตุลาคม นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวปราศรัยสำคัญต่อที่ประชุมระดับสูงของสหประชาชาติ เพื่อรำลึกวาระครบรอบ 25 ปี การประชุมสตรีโลกที่กรุงปักกิ่ง ผ่านระบบวิดีทัศน์ทางไกล

ปธน.จีนกล่าวปราศรัยสำคัญในการประชุมระดับสูงสหประชาชาติ รำลึก 25 ปี การประชุมสตรีโลกที่กรุงปักกิ่ง_fororder_2

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวชี้ว่า สตรีเป็นผู้สร้างอารยธรรมของมวลมนุษยชาติ เป็นผู้ผลักดันความก้าวหน้าของสังคมและประสบความสำเร็จที่ไม่ธรรมดาในสาขาอาชีพต่าง ๆ เรากำลังต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 สตรีที่ทำงานในสาขาอาชีพต่าง ๆ เช่น เจ้าหน้าที่การแพทย์ นักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เจ้าหน้าที่ชุมชน และอาสาสมัคร ต่างไม่กลัวความยากลำบากและเสี่ยงอันตราย ทำงานในแนวหน้าของการป้องกันและควบคุมโรคระบาดตลอดทั้งวันทั้งคืน พวกเขาได้เขียนมหากาพย์แห่งวีระชนในการปกป้องชีวิตและช่วยเหลือประชาชนด้วยการทำงานอย่างยากลำบากและด้วยภูมิปัญญาของตน พวกเขาสมควรที่จะได้รับการชื่นชมจากพวกเรา ในยามต้านการระบาดของโควิด-19 ที่เร่งด่วนที่สุดในจีน ความกล้าหาญและการทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยของสตรีจีนนับหมื่นนับแสนคนเหล่านี้แสดงถึงจิตใจของเจ้าหน้าที่การแพทย์ที่มีความเมตตากรุณา ความรับผิดชอบ และอุทิศตน เพื่อให้ประเทศชาติสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ไปได้

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวเน้นว่า ช่วง 25 ปีมานี้ เจตนารมณ์การประชุมสตรีโลกที่กรุงปักกิ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก สตรีมีฐานะทางสังคมสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บทบาทของสตรีที่มีน้ำหนักเท่าครึ่งฟ้านับวันยิ่งเด่นชัดยิ่งขึ้น ความเสมอภาคทางเพศและการให้อำนาจแก่สตรีกลายเป็นเป้าหมายสำคัญของวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 ของสหประชาชาติ

ขณะนี้ โควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดใหญ่ทั่วโลก สตรีต้องเผชิญกับความท้าทายมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ ในกระบวนการต้านการระบาดของโควิด-19 และขับเคลื่อนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและสังคม จึงต้องให้ความสำคัญอย่างมากกับความต้องการพิเศษของสตรี ปฏิบัติตามปฏิญญาปักกิ่งและแผนปฏิบัติการ

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เสนอข้อเสนอ 4 ประการดังนี้

ประการแรก ช่วยให้สตรีพ้นจากผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษแก่สุขภาพ ความต้องการทางสังคม จิตใจ รวมถึงสภาพแวดล้อมในการทำงานของสตรี ต้องให้ความสำคัญต่อการปกป้องสิทธิและประโยชน์ของสตรีรวมถึงเด็กหญิงในโครงการสาธารณสุขและการฟื้นฟูการทำงาน ปราบปรามพฤติกรรมละเมิดสิทธิและประโยชน์ของสตรี ต้องยกระดับการบริการทางสังคม ให้หลักประกันแก่กลุ่มคนพิเศษก่อน เช่น สตรีมีครรภ์ สตรีหลังคลอดบุตร และเด็ก ต้องให้การดูแลเป็นพิเศษแก่กลุ่มคนด้อยโอกาส เช่น สตรียากจน สตรีสูงอายุ สตรีผู้พิการ โดยทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสตรี และช่วยแก้ไขปัญหาของพวกเขา เพื่อให้พวกเขามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ประการที่สอง ต้องพยายามให้เกิดความเสมอภาคทางเพศ การประกันสิทธิและประโยชน์ของสตรีต้องเป็นพันธะสัญญาระดับประเทศ  ต้องรักษาโอกาสการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในยุคหลังโควิด-19 สร้างโอกาสใหม่ในการกำหนดนโยบายแก่สตรีและให้สตรีมีส่วนร่วมมากขึ้นในการบริหารกิจการบ้านเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และสังคม ต้องขจัดอคติ การเลือกปฏิบัติ และการใช้ความรุนแรงต่อสตรี เพื่อให้ความเสมอภาคทางเพศกลายเป็นกฎระเบียบในทางปฏิบัติและบรรทัดฐานด้านศีลธรรม

ประการที่สาม ต้องผลักดันให้สตรีก้าวหน้าในแนวหน้าของยุคสมัย ประกันสิทธิและประโยชน์ของสตรี ยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของสตรีให้สูงขึ้น ให้การพัฒนาภารกิจสตรีควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ต้องสร้างสภาวะแวดล้อมที่กระตุ้นให้สตรีมีความกระตือรือร้นในการทำงาน และปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ของสตรีอย่างเต็มที่ ทำให้พวกเขามีความพอใจ มีความสุข และความปลอดภัยมากขึ้น ต้องแสดงบทบาทของรัฐบาลอย่างเต็มที่ ระดมพลังจากทุกภาคส่วนของสังคม ตลอดจนสนับสนุนและช่วยเหลือสตรีให้ใช้ชีวิตอย่างมีสีสันมากขึ้น

ประการที่สี่ กระชับความร่วมมือในภารกิจสตรีโลกมากขึ้น จีนสนับสนุนสหประชาชาติให้ความสำคัญในอันดับต้น ๆ แก่ภารกิจสตรีและทุ่มเทกำลังมากขึ้นในการแก้ไขปัญหาที่มีมาแต่ดั้งเดิม เช่น การใช้ความรุนแรง การเลือกปฏิบัติ และความยากจน พร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ เช่น ช่องว่างด้านดิจิทัลระหว่างเพศ ทั้งนี้ เพื่อให้เป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับสตรีกลายเป็นผลการเก็บเกี่ยวในเบื้องต้นของวาระ ค.ศ. 2030 ของสหประชาชาติ

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวว่า ความเสมอภาคเท่าเทียมกันระหว่างชาย-หญิงเป็นนโยบายพื้นฐานของจีน จีนสร้างระบบกฎหมายประกันสิทธิและประโยชน์ของสตรีอย่างรอบด้าน ระบบกฎหมายดังกล่าวประกอบด้วยกฎหมายและข้อบังคับกว่า 100 ฉบับ ซึ่งลดช่องว่างระหว่างชาย-หญิงในการศึกษาภาคบังคับ ประชากรแรงงานสตรีคิดเป็นสัดส่วน 40% ของประชากรแรงงานทั้งหมด เมื่อ 5 ปีก่อน ข้าพเจ้าริเริ่มให้จัดการประชุมผู้นำสตรีโลกพร้อมเสนอข้อริเริ่มเกี่ยวกับความร่วมมือด้านต่าง ๆ ซึ่งข้อริเริ่มเหล่านี้ล้วนได้รับการปฏิบัติอย่างรอบด้านแล้ว จีนจะสนับสนุนภารกิจสตรีโลกมากขึ้นต่อไปโดยริเริ่มให้จัดการประชุมผู้นำสตรีโลกอีกครั้งใน ค.ศ. 2025

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวทิ้งท้ายว่า เรายังมีหนทางที่ต้องเดินอีกยาวไกล มีงานที่ต้องทำอย่างหนักอีกมากในการสร้างสรรค์โลกที่ปราศจากการเลือกปฏิบัติต่อสตรีรวมถึงสังคมที่มีการพัฒนาอย่างครอบคลุมทุกด้าน ขอให้เราร่วมมือกันใช้ความพยายาม เร่งส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศและสนับสนุนการพัฒนาภารกิจสตรีโลกต่อไป

(Tim/cai)

  • เสียงข่าวประจำวัน (21-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (21-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (21-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (20-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (20-11-2567)

蔡建新