วันที่ 12 ต.ค. นายสี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนลงพื้นที่มณฑลกว่างตง ซึ่งมณฑลนี้มักจะถูกมองว่าเป็น “นักรบแนวหน้า” ของการปฏิรูปและเปิดประเทศของจีนเสมอ

ตั้งแต่ปี 1989 เป็นต้นมา GDP ของมณฑลกว่างตงเป็นอันดับ 1 ของทั่วประเทศจีนต่อเนื่องกันเป็นเวลา 31 ปี เป็นมณฑลที่ใหญ่ที่สุดทางเศรษฐกิจของจีน เมื่อปี 2019 GDP ทั้งมณฑลเกินกว่า 10 ล้านล้านหยวน ประชาชนผู้มีรายได้น้อยจำนวน 1.615 ล้านคนของมณฑลกว่างตงมีชีวิตความเป็นอยู่ที่มาตรฐาน หลุดพ้นจากความยากจนในปัจจุบัน

การลงพื้นที่มณฑลกว่างตงครั้งนี้ของนายสี จิ้นผิง เริ่มต้นจากเมืองโบราณแต้จิ๋ว ตั้งอยู่ที่เขตใจกลางของเขตประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมแต้จิ๋วมีประวัติยาวนานกว่า 1,600 ปี นายสี จิ้นผิงเดินทางดูงานที่สะพานกว่างจี้และพลับพลากว่างจี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่สะพานโบราณสำคัญของจีน เริ่มก่อสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1171 ได้รับการยกย่องเป็น “สะพานแบบปิดที่เก่าแก่ที่สุดของโลก” รวมถึงถนนและซุ้มประตูซึ่งเป็นแลนด์มาร์คของเมืองแต้จิ๋วเพื่อตรวจดูการอนุรักษ์และซ่อมแซมโบราณวัตถุ การสืบทอดวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ การบุกเบิกทรัพยากรทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเป็นต้น

หลังจากนั้น นายสี จิ้นผิงเดินทางไปที่กลุ่มบริษัทซานหวน แต้จิ๋ว เพื่อรับฟังรายงานด้านนวัตกรรม การผลิตและการประกอบธุรกิจของกลุ่มบริษัทซานหวน  บริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1970 เป็นบริษัทวิจัยและผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และวัสดุใหม่ ประกอบธุรกิจในด้านต่างๆ เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โทรคมนาคม เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า พลังงานใหม่เป็นต้น บริษัทนี้สามารถใช้นวัตกรรมของตนเอง เป็นเจ้าของเทคโนโลยีสำคัญ ได้รับรางวัลเหรียญทองผลิตภัณฑ์ดีเลิศระดับชาติกว่า 30 รายการ