หลายปีมานี้ ขณะที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีนพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง เทคโนโลยีไร้คนขับด้านต่างๆ เช่น โดรน รถยนต์ไร้คนขับ เครื่องบินไร้คนขับ เป็นต้น ก็ได้รับการพัฒนาและประยุกต์ใช้ในแวดวงต่างๆของจีนอย่างกว้างขวาง ในผลงานเทคโนโลยีเหล่านี้ นอกจากมีผลงานการวิจัยภาครัฐแล้ว ยังมีจำนวนไม่น้อยเกิดจากคุณูปการของภาคเอกชน ในรายการวันนี้ เราขอแนะนำนักธุรกิจชื่อ เถียน กังยิ่น กับผลงานเทคโนโลยีเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับ
นายเถียน กังยิ่น ผู้ตั้งบริษัทวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจงหางจื้อปักกิ่ง บุกเบิกธุรกิจและวิจัยเทคโนโลยีเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับด้วยตนเอง โดยไม่สนใจการจูงใจของทุนต่างชาติ ผลงานเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับทางการทหารของเขา ทำให้ทางการจีนได้รับผลงานวิจัยดังกล่าวก่อนการคาดหมาย 5 ปี
ปัจจุบัน เฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับทางทหารที่วิจัยและผลิตโดยบริษัทของนายเถียน กังยิ่น ได้รับการประยุกต์ใช้ในหลายด้าน รวมทั้งด้านการป้องกันความมั่นคง การตรวจสอบในศุลกากร การลาดตระเวนและตรวจสอบเครือข่ายไฟฟ้า และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติ เป็นต้น
นายเถียน กังยิ่น เกิดปี ค.ศ. 1981 จบการศึกษาจากวิชาการออกแบบและวิศวกรรมอากาศยานของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีปักกิ่ง เมื่อเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยปีที่ 2 เถียน กังยิ่นก็เกิดความคิดที่จะทำระบบควบคุมอากาศยานอัตโนมัติ เพื่อบรรลุการบินไร้คนขับ
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นายเถียน กังยิ่นกับเพื่อนคนหนึ่งก็ร่วมกันดำเนินการวิจัยด้านนี้ ต่อจากนั้นประมาณ 4 ปี คือปี 2007 เขาวิจัยและผลิตเครื่องควบคุมอากาศยานอัตโนมัติเป็นผลสำเร็จได้
ปี 2007 นายเถียน กังยิ่นไปซื้อส่วนประกอบ และพบนักวิจัยของสภาวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีนคนหนึ่ง ซึ่งกำลังแสวงหาระบบควบคุมอากาศยานอยู่ นายเถียน กังยิ่นจึงนำเอาผลงานประดิษฐ์ให้นักวิจัยทดลองใช้ นักวิจัยคนนี้ลองใช้แล้วดีใจใหญ่บอกว่า คาดไม่ถึงว่า ภายในประเทศจะมีผลิตภัณฑ์ที่น่าพอใจเช่นนี้ได้ และหวังจะซื้อเครื่องควบคุมอากาศยานของเถียน กังยิ่น ในราคา 3 แสนหยวน
ที่จริง ผลิตภัณฑ์ทำนองนี้ในต่างประเทศช่วงนั้นจะมีคุณค่า 6-7 แสนหยวน แต่นายเถียน กังยิ่นได้ 3 แสนหยวนก็รู้สึกดีใจมากแล้ว เนื่องจากว่า ขณะทำการวิจัย เขาไม่มีทุนที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ต่างประเทศมาเป็นตัวอย่างศึกษา จึงไม่ทราบว่าผลิตภัณฑ์นอกประเทศมีความทันสมัยถึงระดับใด และคิดว่าผลงานวิจัยของตนยังมีช่องว่างมากมายเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีต่างประเทศ หากจำหน่ายได้ 4-5 หมื่นหยวนก็รู้สึกพอใจแล้ว คิดไม่ถึงว่า ตัวเองได้ทำผลิตภัณฑ์ที่ดีกว่าของต่างประเทศแล้ว
หลังจากวิจัยและผลิตระบบควบคุมอากาศยานเป็นผลสำเร็จ นายเถียน กังยิ่นจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทของตน แต่ในปี 2009 ในตลาดปรากฏคู่แข่งที่แข็งแกร่ง ซึ่งออกผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกันที่ใช้งานได้ดีและราคาต่ำ เถียน กังยิ่นจึงต้องมีการคัดเลือกว่า ตั้งราคาถูกกว่าคู่แข่ง หรือบุกเบิกวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ ในที่สุด เขาตั้งใจจะวิจัยและผลิตเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับด้วยตนเอง
จากปี 2009 ถึง 2012 นายเถียน กังยิ่นผ่านช่วงที่ลำบากมาก รายได้ที่ได้มาน้อยและการวิจัยที่เปลืองเงินทำให้เขาปวดหัวบ่อยครั้ง ต้องประหยัดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมาตลอด มีอยู่ครั้งหนึ่ง ปั้มน้ำมันมีการลดราคาน้ำมันเบนซิน เถียน กังยิ่นจึงไปซื้อน้ำมัน 300 ลิตรในครั้งเดียว แต่ถูกกองตำรวจท้องถิ่นเรียกไปสอบถามว่า การเก็บน้ำมันมากขนาดนี้ไปใช้ทำอะไร?ทั้งๆที่ตำรวจไม่ได้คิดว่า หนุ่มคนนี้จะใช้น้ำมันไปทำเรื่องเลวร้าย แต่การเก็บน้ำมันผิดปกติก็ทำให้เกิดความสงสัย เถียน กังยิ่นจึงต้องให้คำอธิบายตามความเป็นจริงว่า การทดลองการบินอากาศยานของเขาแต่ละชั่วโมงจะต้องเปลืองน้ำมัน 30 ลิตร
ที่จริง ในการวิจัยและผลิตเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับ นอกจากเปลืองน้ำมันแล้ว ยังมีลักษณะโดดเด่นยิ่งขึ้นอีกประการหนึ่งคือ การเปลืองเงินอย่างมาก ในการทดลองสร้างเฮลิคอปเตอร์บางลำต้องใช้เงินกว่า 10 ล้านหยวน หากเกิดข้อบกพร่องและร่วงตก เงินทุนการผลิตเหล่านี้ก็จะสูญเสียไป ระหว่างปี 2009-2012 นายเถียน กังยิ่นหยุดชะงักการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทุกชนิด จะได้ทุ่มเทกำลังทั้งหมดในการวิจัยเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับอย่างเต็มที่
แม้การวิจัยและผลิตต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก แต่บริษัทการลงทุนต่างๆส่วนใหญ่เห็นว่า เทคโนโลยีด้านนี้ยังมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง ความต้องการในตลาดก็ไม่แน่นอน จึงไม่ยอมลงทุนในโครงการดังกล่าว เถียน กังยิ่นจึงตัดสินใจทุ่มเทเงินทุนของตนทั้งหมดในโครงการวิจัยนี้ เพื่อบรรลุความฝันของตนให้เป็นจริง
ปี 2012 ขณะนายเถียน กังยิ่นวิจัยและผลิต “TD220” เฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับลำแรกด้วยตนเองเป็นผลสำเร็จ เงินทุนในการวิจัยก็เกือบใช้หมดแล้ว บริษัทการลงทุนสิงคโปร์แห่งหนึ่งหวังจะลงทุนให้กับนายเถียน กังยิ่น 700 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 16,000 ล้านบาท) โดยมีเงื่อนไขว่า สำนักงานใหญ่บริษัทของเถียน กังยิ่นต้องย้ายไปอยู่ที่สิงคโปร์ และซีอีโอบริษัทอาจจะต้องเป็นชาวสิงคโปร์
แม้ต้องการเงินทุนอย่างเร่งด่วน แต่นายเถียน กังยิ่นรู้ดีว่า เฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับเป็นเทคโนโลยีสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินของชาติ ซึ่งต้องเป็นเทคโนโลยีของจีนเอง และสำนักงานใหญ่ก็ต้องตั้งอยู่ในจีน นายเถียน กังยิ่นจึงปฏิเสธเงื่อนไขการลงทุนของบริษัทสิงคโปร์ แต่โชคดีที่เทศบาลปักกิ่งและวิสาหกิจภาคเอกชนอื่นๆให้เงินทุนสนับสนุนเป็น 50 ล้านหยวนอย่างทันการ ทำให้โครงการวิจัยและผลิตเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับของนายเถียน กังยิ่นแล้วเสร็จเป็นผลสำเร็จได้ในที่สุด
จากการทำระบบควบคุมอากาศยานจนถึงการผลิตเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับนั้น นับเป็นกระบวนการที่ต้องขจัดความยากลำบากมากมาย ด้วยการคิดและปรับปรุงกว่า 2,000 ครั้ง นายเถียน กังยิ่นจึงบรรลุมาตรการผลิตเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับในที่สุดและผลิตเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับได้จริงเป็นผลสำเร็จ ต่อจากนั้น เทคโนโลยีแกนนำดังกล่าวก็ได้รับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ระดับชาติทั้งภายในจีนและประเทศต่างๆ นับเป็นเทคโนโลยีระดับนำร่องทั่วโลก
ปี 2012 บริษัทของนายเถียน กังยิ่นไม่มีรายได้แต่อย่างใด หลังจากผลิตเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับลำแรกเป็นผลสำเร็จ นายเถียน กังยิ่นนำผลิตภัณฑ์ล่าสุดไปเข้าร่วมงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีปักกิ่ง ผลงานของเขาเรียกความสนใจจากทางการทหารจีนอย่างมาก จากนั้น บริษัทของเถียน กังยิ่นเริ่มมีความร่วมมือกับทางการทหารและหน่วยงานของรัฐจำนวนมาก ปัจจุบัน เฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับรุ่นต่างๆได้รับการประยุกต์ใช้ในหลายด้าน และเข้าสู่ตลาดโลกแล้ว ส่วนนายเถียน กังยิ่นก็ได้รับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ของจีนและระดับโลกกว่า 20 ประการ
Yim/Sun