งานมหกรรมการนำเข้านานาชาติแห่งประเทศจีน (CIIE) ครั้งที่ 3 จัดขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ตามกำหนดนัด ระหว่างวันที่ 5-10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา งานครั้งนี้ จัดขึ้นด้วยความยิ่งใหญ่ ไม่เพียงแต่ไม่แพ้ครั้งที่ผ่านมา หากยังมีขนาดใหญ่กว่าและมีคุณภาพดีกว่าด้วย เรามาทบทวนหน่อยว่า งานมหกรรมการนำเข้านานาชาติแห่งประเทศจีนครั้งที่ 3 นี้มีอะไรพิเศษและโดดเด่น ส่วนประเทศไทย มีบริษัทอะไรมาร่วมงานด้วย
เมื่อค่ำวันที่ 4 พฤศจิกายน พิธีเปิดงานมหกรรมนำเข้าฯ จัดขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ นายสี จิ้นผิง ประธานธิบดีจีนได้กล่าวสุนทรพจน์ผ่านระบบวิดิทัศน์ทางไกล โดยเน้นว่า จีนจัดงานมหกรรมการค้าทั่วโลกครั้งนี้ตามกำหนดนัด ภายใต้ภูมิหลังที่ประกันความปลอดภัยในการป้องกันโรคโควิด-19 แสดงว่าจีนมีความปรารถนาดีในการแบ่งปันโอกาสการค้าและตลาดกับโลก ร่วมผลักดันการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก
ในงานมหกรรมครั้งนี้ มีทั้งบริษัทที่เคยร่วมงานต่อเนื่องกัน 3 ครั้งแล้ว และมีบริษัทที่สมัครร่วมงานเป็นครั้งแรก บริษัทต่างชาติพากันนำสินค้าและผลิตภัณฑ์ล่าสุดมาถึงจีน เนื่องจากไม่อยากพลาดตลาดจีนที่มีศักยภาพยิ่งใหญ่ และคงเป็นตลาดที่มีโอกาสการค้ามากสุดขณะที่จีนได้ฟื้นฟูเศรษฐกิจและมีผลต้านโควิดอย่างดี จนทำให้ประชาชนสามารถจับจ่ายใช้สอยและดำรงชีวิตเป็นปกติได้
สำหรับประเทศไทย จำได้ว่า เมื่อปีที่แล้ว รองนายกรัฐมนตรีไทยและรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ไทยเป็นผู้นำคณะเข้าร่วมงานด้วยตนเอง ไม่เพียงประชาสัมพันธ์สินค้าไทยเท่านั้น หากยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพทางการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวของไทยอีกด้วย ปีนี้ก็ยังมีความกระตือรือร้นในการเตรียมงานให้กับบริษัทที่สนใจและอยากจะมีส่วนร่วม
ก่อนเปิดงาน นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ไทยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า งานมหกรรมการนำเข้านานาชาติครั้งที่ 3 ของจีนเป็นเวทียิ่งใหญ่ในการแสดงสินค้าคุณภาพของประเทศต่างๆ สร้างโอกาสการเปิดตลาดจีนให้กับบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย ช่วยให้ไทยฟื้นฟูเศรษฐกิจ
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจของทุกประเทศทั่วโลก การท่องเที่ยว การค้าและการส่งออกของไทยได้รับผลกระทบอย่างมาก เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทาย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ของไทยกำลังใช้ความพยายามช่วยเหลือวิสาหกิจภายในประเทศให้ผ่านพ้นจากภาวะวิกฤต ส่วนการจัดงานมหกรรมฯ อย่างตรงเวลานั้น เป็นโอกาสที่ดีสำหรับบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย
งานในครั้งนี้ มีวิสาหกิจไทย 25 แห่งเข้าร่วมงานดังกล่าว และมีบางบริษัทไม่สามารถเดินทางมาร่วมได้เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจะมีการอำนวยความสะดวกให้กับบริษัทดังกล่าว จัดการเจรจาออนไลน์และแสดงสินค้าออนไลน์ เพื่อช่วยเหลือให้สามารถแสดงสินค้าในงานดังกล่าวได้
ในสถานที่จัดงาน Thailand Pavilion หรือ หอไทย มีการจัดสินค้าไทยมากมายหลากหลาย และเห็นได้ชัดว่า อาหารไทย โดยเฉพาะผลไม้และเครื่องดื่ม จะได้รับความนิยมมากสุด ซึ่งมีบริษัทไทยหลายแห่งนำสินค้าของตนมาร่วมงานแสดง และขายดีด้วย
หอการค้าไทยในจีน ได้จัดบุ๊ธ “Thai Food Hub” เป็นผู้ประสานงานเชื่อมต่อบริษัทจีนที่มีวัตถุประสงค์นำเข้าสินค้าไทย หรือเป็นบริษัทที่ทำการนำเข้าส่งออกสินค้า นับเป็นเวทีอันดีที่เปิดโอกาสให้กับบริษัทหรือตัวแทนจำหน่าย เช่น น้ำมันมะพร้าวยี่ห้อ Boonboon ที่ผลิตจากจังหวัดสมุทรสาคร มีขั้นตอนการผลิตที่เข้มงวด ผ่านการตรวจสอบและได้รับการยืนยันจากสหรัฐฯ สหภาพยุโรปและญี่ปุ่นมาแล้ว สินค้าทั้งน้ำมัน มะพร้าวอบแห้งและอื่นๆ มีบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็ก พกพาสะดวก จึงได้รับความนิยมและขายดีด้วย
ส่วนอาหารว่างยี่ห้อ “แก้ว” เป็นบริษัทที่มีประวัติศาสตร์กว่า 30 ปีแล้ว ปีนี้ยังได้รับรางวัล “ยี่ห้อไทยที่ดีที่สุดในการส่งออกประจำปี 2020” จากคณะกรรมการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ไทย ผลิตภัณฑ์จำพวกมะขามและมะพร้าว ขายดีในทั่วโลก ชาวจีนก็ชอบเหมือนกัน
ส่วนผลไม้ไทย ขายดีในจีนมาโดยตลอด และพร้อมกับความสามารถการบริโภคของจีนสูงขึ้น ตอนนี้ ชาวจีนยิ่งสนใจและอยากชิมผลไม้ไทยชั้นยอด เช่น ส้มโอทับทิมสยาม มะม่วงน้ำดอกไม้ เป็นต้น แม้ราคาแพง แต่ก็ขายดีทีเดียว
งานมหกรรมการนำเข้านานาชาติแห่งประเทศจีน จัดขึ้นมาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว และมีนักธุรกิจร่วมงานและมีผู้ชมมากขึ้นทุกปี ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างโอกาสการค้าให้กับนักธุรกิจต่างชาติ หากยังเป็นการสร้างชีวิตที่ดีงามยิ่งขึ้นให้กับประชาชนจีน
Yim/Ping/Ping