ตามแผนการพัฒนาของจีน ช่วง 30 ปีตั้งแต่ปัจจุบันจนถึงกลางศตวรรษนี้ เป็นช่วงการสร้างสรรค์จีนให้เป็นประเทศสังคมนิยมที่ทันสมัยและเข้มแข็งอย่างรอบด้าน แนวทางการพัฒนาในอนาคตของเขตผู่ตงเพื่อได้รับชัยชนะร่วมกันกับโลก คือ “เปิดกว้างให้มีลักษณะความเป็นระบบในระดับสูง”
ในการประชุมฉลองครบรอบ 30 ปี การบุกเบิกเขตผู่ตงของนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวเน้นว่า “ต้องผลักดันการเปิดกว้างของเขตผู่ตงให้มีลักษณะความเป็นระบบในระดับสูงและลึกซึ้ง สร้างความเหนือกว่าใหม่ทั้งด้านความร่วมมือระหว่างประเทศและการแข่งขันระหว่างประเทศ” อันถือเป็นการบรรยายสรุปประสบการณ์การพัฒนาของเขตผู่ตงในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ทั้งยังเป็นข้อเรียกร้องต่อการพัฒนาในอนาคตของเขตผู่ตงด้วย
ประชาคมโลกสังเกตว่า ปธน.จีนยังเน้นด้วยว่า ต้องขยายบทบาทของเขตใหม่บริเวณท่าเรือสาธิตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้ให้มากยิ่งขึ้น ทดสอบแรงกดดันให้มากยิ่งขึ้นเพื่อบรรลุมาตรฐานสูงสุดและระดับสูงสุด โดยใช้ความพยายามเพื่อประสบความสำเร็จในด้านสำคัญต่าง ๆ ก่อน
“การเสริมทักษะด้านการจัดสรรทรัพยากรทั่วโลก เพื่อรับใช้และพัฒนาโครงสร้างการพัฒนาใหม่” เป็นอีกประเด็นสำคัญเพื่อให้การปฏิรูปและเปิดกว้างของเขตผู่ตงมีระดับสูงขึ้น ปัจจุบัน “โครงสร้างการพัฒนาใหม่” กลายเป็นคำศัพท์ร้อนแรงและคุ้นหูของประชาคมโลก การทำให้เขตผู่ตงเป็นศูนย์กลางการหมุนเวียนภายในประเทศ และเป็นจุดเชื่อมต่อทางยุทธศาสตร์ของการหมุนเวียนทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ ถือเป็นแนวทางการพัฒนาอีกประการหนึ่งของเขตผู่ตง ซึ่งมีนัยว่า เขตผู่ตงจะสร้างกำไรการพัฒนาให้มากยิ่งขึ้นเพื่อแบ่งปันกับทั่วโลก
นอกจากนี้ ปธน.สี ยังเรียกร้องให้เขตผู่ตงมีอิทธิพลสูงขึ้นด้านเงินทุน ข้อมูลข่าวสาร เทคโนโลยี บุคลากร และสินค้า เป็นต้น สำนักงานใหญ่บริษัทข้ามชาติกว่า 350 แห่งที่ตั้งอยู่ในเขตผู่ตงจะมีโอกาสการพัฒนาใหม่ในกระบวนการหมุนเวียนทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ เพื่อให้ “เศรษฐกิจสำนักงานใหญ่” กลายเป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญระหว่างห่วงโซ่อุตสาหกรรมการผลิต ห่วงโซ่อุปทาน และห่วงโซ่ค่านิยมของโลก
นักวิเคราะห์ลงความเห็นว่า อนาคตบทบาทความเป็นหน้าต่างของเขตผู่ตงจะไม่ได้หมายถึงความเร็วในการพัฒนาเท่านั้น ที่สำคัญคือ แสดงให้เห็นถึงพลังชีวิตและความเจริญรุ่งเรืองของสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์จีน
(Tim/Zhou)