การประชุมฟอรั่มเศรษฐกิจโลก “วาระการประชุมดาวอส” เมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา ปธน.สี จิ้นผิง ของจีนได้เข้าร่วมการประชุมและกล่าวคำปราศรัยพิเศษ โดยเสนอแผนการของจีนเพื่อปรับปรุงระบบการบริหารโลกให้ดียิ่งขึ้น และเพิ่มความมั่นใจให้กับกลไกพหุภาคีและกระแสโลกาภิวัฒน์ที่กำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างมากในขณะนี้ ซึ่งคำปราศรัยดังกล่าวได้รับการชื่นชมจากบุคคลหลายประเทศ
นาย กาย ไรเดอร์ (Guy Ryder) ผู้อำนวยการใหญ่องค์การแรงงานระหว่างประเทศประเมินคำปราศรัยของปธน.สี จิ้นผิง ที่เน้นการรักษาและปฏิบัติตามกลไกพหุภาคีว่า การสนับสนุนกลไกพหุภาคี การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านการวิจัยวัคซีนต้านโควิด การเพิ่มโอกาสการมีงานทำและการเงิน มีความสำคัญยิ่งสำหรับการบรรลุเป้าหมายหลังการระบาดของโควิด-19 และฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก
ด้านศาสตรจารย์เจนนี่ โรส์เซาว์ (Jannie Rossouw) ผู้อำนวยการสถาบันเศรษฐกิจและการพาณิชย์มหาวิทยาลัยในแอฟริกาใต้ (University of the Witwatersrand) กล่าวว่าถ้าไม่มีความร่วมมือแบบพหุภาคี มนุษย์ก็ไม่สามารถเอาชนะไวรัส จีนได้แสดงบทบาทสำคัญในด้านการส่งเสริมความร่วมมือกับทั่วโลกและเชื่อมั่นว่าจีนจะสร้างคุณูปการในอนาคตให้มากยิ่งขึ้น
ด้านนายสตีเฟน เพอรี่ (Stephen Perry) ประธานสโมสร 48 กรุ๊ป (The 48 Group Club) ของอังกฤษเห็นด้วยกับเนื้อหาเกี่ยวกับการสร้างเศรษฐกิจโลกแบบเปิดกว้าง และการรักษาระบบการค้าแบบพหุภาคีอย่างแน่วแน่ ในคำปราศรัยของปธน.สี จิ้นผิง เขากล่าวว่า โลกนี้ควรมีการประสานงานที่ดียิ่งขึ้นเพื่อรับมือกับการระบาดของโควิด-19 และผลักดันการฟื้นฟูเศรษฐกิจ
ด้านนางโซเนีย เบรสเลอร์ (Sonia Bressler) ผู้เชี่ยวชาญจีนศึกษาของฝรั่งเศสกล่าวว่า คำปราศรัยของปธน.สี จิ้นผิง ทำให้ผู้คนเห็นถึงความตั้งใจของจีนที่เข้าร่วมความร่วมมือการต้านโควิด-19 ระหว่างประเทศอย่างแข็งขัน ยึดมั่นกลไกพหุภาคี และผลักดันการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน แสดงให้เห็นว่า จีนยินดีที่จะแลกเปลี่ยนและหารือกับประเทศอื่นๆ ตลอดจนแนวคิดสันติภาพ เปิดกว้างและความร่วมมือเพื่อได้รับผลประโยชน์ร่วมกันของจีน
(Bo/Lin/Zi)