บ่ายวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน เข้าร่วมการพิจารณาของคณะผู้แทนจากเขตปกครองตนเองมองโกเลียในเกี่ยวกับการพัฒนาใหม่ ตั้งแต่การประชุมสมัชชา 19 ครั้งที่ 4 เป็นต้นมา นายสี จิ้นผิงร่วมประชุมกับคณะจากเขตมองโกเลียในเป็นครั้งที่ 4 โดยครั้งนี้มีผู้แทน 5 คนกล่าวรายงานต่อนายสี จิ้นผิง
นายจัง เสี่ยวปิง ผู้แทนจากเมืองปาเยี่ยนน่าวเอ่อร์ กล่าวว่า คุณภาพน้ำในทะเลสาบอูเหลียงซู่ไห่เปลี่ยนจากระดับมีมลพิษร้ายแรงมาเป็นระดับที่ 5 ซึ่งสามารถใช้งานได้ในด้านการเกษตรและทิวทัศน์ทั่วไป ขณะที่สิ่งแวดล้อมก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ
นายเกอ หมิง จากเขตอาลาซั่น กล่าวว่า ควบคู่ไปกับการสร้างฐานภาวะนิเวศป่าไม้ต้นชัวซัว (Haloxylon ammodendron) และต้นไป๋ซื่อ (Nitraria tangutorum Bobr.) ได้มีการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปทรัพยากรสิ่งมีชีวิตในทะเลทราย ซึ่งส่งเสริมการอนุรักษ์ระบบนิเวศในท้องถิ่น
นายโจว อี้เจ๋อ อดีตผู้ตัดไม้และผู้อนุรักษ์ป่าไม้ในปัจจุบัน กล่าวว่า เขตป่าไม้แห่งชาติบนยอดเขาต้าซิงอันหลิ่งในเขตมองโกเลียในมีพื้นที่เพิ่ม 994,500 เฮกตาร์ สภาพแวดล้อมดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
นางหลี่ กั๋วฉิน จากเขตซีหลินกัวเล่อ กล่าวเสนอว่า ให้สร้าง “คลังเมล็ดพันธุ์หญ้าแห่งชาติ” และฐานนวัตกรรมการศึกษาทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์หญ้า พร้อมทั้งพัฒนาอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์หญ้าของจีนให้เข้มแข็งขึ้น
นายสี จิ้นผิง เคยกล่าวเน้นว่า “ระบบนิเวศในเขตมองโกเลียในนั้นไม่เพียงแต่เกี่ยวพันธ์ถึงชีวิตความเป็นอยู่และการพัฒนาของประชาชนชนเผ่าต่าง ๆ ในเขตท้องถิ่นเท่านั้น หากยังเกี่ยวพันธ์ถึงความมั่นคงด้านระบบนิเวศทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ และทั่วประเทศจีนด้วย”
การร่วมพิจารณากับคณะผู้แทนจากเขตมองโกเลียในครั้งนี้ นายสี จิ้นผิง กล่าวเน้นอีกครั้งว่า ต้องอนุรักษ์ระบบนิเวศในท้องถิ่น ตลอดจนสร้างแนวประกันความมั่นคงทางระบบนิเวศทางภาคเหนือของจีนด้วยดี
Tim/Ldan/Zhou