นายคริส ข่านตัน (Chris Kanthan) นักเขียนอเมริกันเชื้อสายอินเดียเขียนบทความระบุ ชาวอเมริกันและชาวอินเดียส่วนใหญ่หลงเชื่อข่าวสารและข้อมูลที่ไม่เป็นจริงเกี่ยวกับจีน ไม่รู้ระดับการพัฒนาของจีน เนื่องจากมีความเข้าใจผิดและมีอคติต่อจีน คำพูดที่มักใช้เกี่ยวกับจีนคือ “จีนล้าหลัง 100 ปี” “ผลิตภัณฑ์จีนเป็นขยะ” “จีนไม่สามารถสร้างนวตกรรมใหม่” “นี่เป็นประเทศคอมมิวนิสต์ที่ยากจนและมีมลภาวะอย่างหนัก” และคำที่นิยมใช้มากที่สุดคือ“เศรษฐกิจจีนพัง” การแก้อคติเหล่านี้ยากมาก เพราะข้อมูลที่ชื่นชมจีน มักจะถูกด่าว่าเป็นการประชาสัมพันธ์จีน 

ทั้งๆที่ข้อเท็จจริงคือ ปัจจุบัน บริษัทหวาเหว่ยของจีนแซงหน้า Apple  Nokia และ Ericsson นำหน้าทั่วโลกในด้านสมาร์ทโฟน เทคโนโลยี 5G และสิ่งปลูกสร้างขั้นพื้นฐานด้านโทรคมนาคม  บริษัท BYD (build your dreams) ของจีน ผลิตรถยนต์พลังไฟฟ้ามากกว่า เทสลา (Tesla) การจับจ่ายผ่านสมาร์ทโฟนของอาลีบาบา (Alibaba) และ วีแชทของ Tencent ที่มีมากกว่าสหรัฐฯถึง50เท่า  ติ๊กต๊อกที่เป็นที่นิยมสูงสุดทั่วโลกก็เป็นผลงานการสร้างสรรค์ของจีน

แม้จีดีพี (GDP) เฉลี่ยต่อคนของจีนยังน้อยกว่าสหรัฐฯ แต่เมืองต่างๆ ในจีนก็มีระดับความทันสมัยพอๆ กับประเทศตะวันตก

ขอนำเสนอตัวเลขที่อาจมีส่วนเพิ่มความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับจีนในปัจจุบัน ดังนี้

-จีนเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของ 130 ประเทศ เป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของ 37 ประเทศ

-ปริมาณการผลิตไฟฟ้า เหล็กกล้า อลูมิเนียมและปูนซีเมนต์เป็นอันดับ 1 ของโลก เฉพาะช่วงปี 2012 – 2018จีนก็มีปริมาณการใช้ปูนซีเมนต์มากกว่าที่สหรัฐฯใช้ตลอดทั้งศตวรรษที่ 20

-ปริมาณการนำเข้าน้ำมันปิโตรเลียมมากเป็นอันดับ 1 ของโลก ปริมาณการจัดซื้อหุ่นยนต์อุตสาหกรรมมากเป็นอันดับ 1 ของโลก ปี 2018 ซื้อหุ่นยนต์คิดเป็น 40% ของโลก

-ปริมาณการผลิตรถยนต์มากเป็นอันดับ 1 ของโลก และเป็นฐานการผลิตผลิตภัณฑ์นิวไฮเทคอันดับ 2 ของโลก สหรัฐฯจึงไม่ต้องแปลกใจที่ปัจจุบันจีนพยายามส่งออกผลิตภัณฑ์การเกษตรไปยังสหรัฐ นอกจากนี้ จีนยังพยายามส่งออกผลิตภัณฑ์นิวไฮเทคไปยังสหรัฐฯอีกด้วย

-ช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา การเติบโตของจีดีพีทั่วโลก ประมาณ 25%-35% มาจากจีน ซึ่งคิดเป็น 2 เท่าของสหรัฐฯ

-จีนมีจำนวนเศษฐีมากเป็นอันดับ 2 ของโลก ตลาดหุ้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก (ปี 2014 แซงหน้าญี่ปุ่น ) ปี 2020 จีนแซงหน้าสหรัฐฯ กลายเป็นประเทศที่มีบริษัทติดอยู่ใน “500 บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก” โดยเป็นบริษัทในแผ่นดินใหญ่จีน 124 บริษัท ขณะที่สหรัฐฯมี 121 บริษัท

จีนมีประชากรที่เป็นชนชั้นกลางมากที่สุดของโลก จนถึงปัจจุบันมีกว่า 400 ล้านคน ในตัวเลขครอบครัว 10% ที่รวยที่สุดของโลกนั้น ชาวจีนมีสัดส่วนมากที่สุด มากกว่าสหรัฐฯ

-จนถึงปี 2020 มีชาวจีน 800 ล้านคนพ้นจากความยากจน จีนขจัดความยากจนให้สิ้นซากจากแผ่นดินเป็นผลสำเร็จ

-ยอดการค้าอีคอมเมิร์ซมากเป็นอันดับ 1 ของโลก มากกว่าสหรัฐฯ 3 เท่า

-จีนเป็นประเทศผู้บริโภคสินค้าแบรนด์หรูที่ใหญ่ที่สุดของโลก ครองสัดส่วน 35% ของโลก