บทวิเคราะห์ – ทะเลจีนใต้ไม่ใช่เวทีให้สหรัฐฯใช้ครองความเป็นใหญ่

วันที่ 7 เมษายน เรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส ทีโอดอร์ รูสเวลต์ ยุติการซ้อมรบร่วมในทะเลจีนใต้นับเป็นครั้งที่ 3 ที่ "รูสเวลท์" ได้ล่วงล้ำเข้าสู่ทะเลจีนใต้ในปีนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้อีกครั้งว่า สหรัฐฯกลายเป็นภัยคุกคามใหญ่ที่สุดต่อสันติภาพในทะเลจีนใต้

ในแผนที่ความเป็นเจ้าโลกของสหรัฐอเมริกาทะเลจีนใต้ถือได้ว่าเป็นพื้นที่ทางทะเลที่สำคัญในการรักษาความเป็นผู้นำในเขตอินโด–แปซิฟิก และเป็นจุดสำคัญที่ยับยั้งจีน

ภายใต้การนำและการยุยงของสหรัฐอเมริกา ประเทศนอกภูมิภาคนี้กำลังยุยงให้เกิดเหตุการณ์ไม่สงบและสร้างความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นเหตุผลพื้นฐานสำหรับ "การเพิ่มกำลังทหาร" ในทะเลจีนใต้ แต่นี่จะเป็นได้แค่ความเพ้อฝันของสหรัฐที่อยากจะก่อกวนในทะเลจีนใต้

ด้านหนึ่ง เป็นเรื่องไม่จริงที่สหรัฐฯจะรวบรวมพันธมิตรเพื่อกดดันจีนทางทหาร ยกตัวอย่างเช่นประเทศที่มี "กลไกสี่ฝ่าย" แม้ว่าญี่ปุ่นและออสเตรเลียจะใช้ถ้อยคำรุนแรงซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เรือรบและเครื่องบินของพวกเขาก็ไม่ได้ "บุกเกาะและแนวปะการัง" โดยลำพังหรือร่วมมือกับสหรัฐฯแต่อย่างใด ส่วนประเทศมหาอำนาจอื่นๆนอกภูมิภาคยิ่งยากที่จะยั่วยุจีนได้อย่างแท้จริง

ที่สำคัญกว่านั้น การกระทำของสหรัฐฯในการก่อกวนทะเลจีนใต้ เป็นการละเมิดเจตนารมณ์ร่วมที่จะรักษาสันติภาพและแสวงหาการพัฒนาร่วมกันของประเทศในภูมิภาค จึงไม่ได้รับการสนับสนุน

ตั้งแต่ปี 2020 เมื่อเผชิญกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิดในทั่วโลก จีนและอาเซียนได้ก้าวข้ามความยากลำบากร่วมกัน และกลายเป็นต้นแบบของความร่วมมือในการต่อต้านการแพร่ระบาดของโลก ทั้งสองฝ่ายยังประสบความสำเร็จในความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนที่เติบโตขึ้นและเป็นครั้งแรกที่กลายเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้ลงนามในข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค(RCEP)ที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งได้กระตุ้นแรงผลักดันที่แข็งแกร่งในการสร้างชะตากรรมร่วมจีน–อาเซียน

ปัจจุบัน ด้วยความพยายามร่วมกันของจีนและประเทศสมาชิกอาเซียน สถานการณ์ในทะเลจีนใต้โดยทั่วไปมีเสถียรภาพ ทั้งสองฝ่ายกำลังเสริมสร้างความร่วมมือในกิจการทางทะเล เร่งการเจรจา "แนวปฏิบัติในทะเลจีนใต้" ที่เปี่ยมด้วยความมั่นใจ มีความสามารถและชาญฉลาดในการจัดการข้อพิพาทอย่างเหมาะสม

อนึ่ง เมื่อเร็วๆนี้ ประธานาธิบดีดูแตร์เตของฟิลิปปินส์กล่าวอย่างชัดเจนว่า หวังว่าจะแก้ไขข้อพิพาทเรื่องดินแดนกับจีนอย่างสันติ และเมื่อเร็วๆนี้ การเยือนจีนของรัฐมนตรีต่างประเทศของอาเซียนทั้ง4 ประเทศสมาชิก ก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนยิ่งว่าประเทศเพื่อนบ้านไม่ยอมที่จะกลายเป็นเครื่องมือของสหรัฐฯในการรักษาความเป็นเจ้าโลก ทะเลจีนใต้ไม่ใช่เวทีสำหรับสหรัฐฯใช้ครองความเป็นใหญ่ของตน การก่อกวนของสหรัฐฯไม่สามารถบ่อนทำลายความมุ่งมั่น และความพยายามของประเทศในภูมิภาคส่งเสริมการพัฒนาอย่างสันติ  ประวัติศาสตร์จะพิสูจน์ให้เห็นในท้ายที่สุดว่า ใครกันที่เป็นเพียงคนเดินผ่าน และใครคือเจ้าถิ่นตัวจริง        

Yim/kt/cui