ด้วย ปี ค .ศ.2021 เป็นปีครบรอบ 100 ปีแห่งการสถาปนาพรรคคอมมิวนิสต์จีน สถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งประเทศจีนหรือ CHINA MEDIA GROUP (CMG) ซึ่งเป็นองค์กรสื่อระดับชาติของจีน ที่ทำหน้าที่เผยแพร่ข่าวสารสำคัญของจีนสู่โลก และข่าวสารสำคัญของโลกสู่จีน ได้มีภารกิจส่งเสริมความเข้าใจและสร้างมิตรภาพระหว่างประชาชนจีนกับประชาชนทั่วโลก โดยในวาระอันสำคัญยิ่งนี้ เพื่อเป็นการรำลึกถึงการสถาปนาพรรคคอมมิวนิสต์จีนครบรอบ 100 ปี จึงได้ดำเนินการเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับมุมมองของบุคคลสำคัญในแวดวงต่าง ๆ ของต่างประเทศที่มีต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีน
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้สื่อข่าวภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งประเทศจีน ได้ขอสัมภาษณ์ดร.ฐณยศ โล่ห์พัฒนานนท์ นักวิจัยประจำสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเกี่ยวกับมุมมองต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ผู้สื่อข่าว:ในมุมมองของท่าน สิ่งที่เรียกว่า “ความแตกต่างด้านอุดมการณ์” เป็นอุปสรรคในการแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างพรรคการเมืองไทยกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนหรือไม่
ดร.ฐณยศ โล่ห์พัฒนานนท์:โลกปัจจุบันขับเคลื่อนด้วยจุดร่วมทางเศรษฐกิจ ความมั่นคง รวมไปถึงความร่วมมือในแง่มุมการศึกษา ศิลปะ การแพทย์ ฯลฯ ไม่ใช่จุดร่วมทางการเมือง หมายความว่าใครจะขับเคลื่อนด้วยระบอบประชาธิปไตย ราชาธิปไตย สังคมนิยม คณาธิปไตย หรือ คอมมิวนิสต์ ล้วนไม่ใช่สาระในการสานสัมพันธ์ สาระจริงๆ คือเป้าหมายอย่างการค้าข้ามพรมแดน ความสัมพันธ์ภาคประชาชน สันติภาพ ฯลฯ เพราะฉะนั้น “ความแตกต่างด้านอุดมการณ์” ไม่ใช่อุปสรรคในการแลกเปลี่ยนความร่วมมือ
ต้องไม่ลืมว่าโลกได้พ้นยุคสงครามเย็นที่มุ่งการนับพวกโดยระบอบการเมืองมานานแล้ว โลกาภิวัตน์ในช่วง 3 ทศวรรษ (1990-2010) ได้สร้างโลกทัศน์ใหม่ให้ประชาคมนานาชาติยอมรับความต่างของกันและกัน การนับเอาความต่างด้านอุดมการณ์การเมืองจึงเป็นเรื่องล้าสมัย กระทั่งการยกให้ระบอบหนึ่งเป็นเลิศเหนือระบอบอื่นก็ล้าสมัย ต้องประเมินที่เนื้อหาการทำงาน
นอกจากนี้ ความเป็นคอมมิวนิสต์ในแบบจีนไม่ได้มุ่งสร้างเครือข่ายคอมมิวนิสต์โลก หลักฐานเชิงประจักษ์คือฐานนโยบายและพฤติกรรม อย่างในเป้าหมายใหญ่ 3 ประการแห่งชาติซึ่งเป็นพื้นฐานนโยบายของจีนในศตวรรษที่ 21 ข้อที่ 3 บอกว่าจีนจะรักษาสันติภาพของโลกและส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันของนานาประเทศ เมื่อมาถึงเรื่องปฏิบัติการ จีนจึงสร้างความเชื่อมโยงตามแผน BRI ไม่มีแม้แต่น้อยที่จะสอดแทรกอุดมการณ์คอมมิวนิสต์เหมือนในยุคสงครามเย็นที่ทั้งฝ่ายเสรีประชาธิปไตยกับคอมมิวนิสต์ต่างยกมาเป็นข้ออ้าง หรือถ้าดูที่สถาบันขงจื่อ/โรงเรียนขงจื่อ จะไม่เห็นการเรียนการสอนให้เชิดชูแนวทางคอมมิวนิสต์ แต่เป็นภาษา วิทยาศาสตร์ ศิลปะและวัฒนธรรมซึ่งจีนถือเป็นตัวตนหลักของชาติจีนในยุคปัจจุบัน กล่าวได้ว่าอุดมการณ์ทางการเมืองในแบบจีนไม่ได้เป็นภัยต่อการปกครองของใคร ฉันใดฉันนั้น อุดมการณ์ทางการเมืองอื่นๆ ก็ไม่ควรนำมาเป็นประเด็นแบ่งแยก
ผู้สื่อข่าว:จีนเป็นประเทศใหญ่ที่มีประชากร 1400 ล้านคน พรรคคอมมิวนิสต์จีนปกครองประเทศมาแล้วกว่า 70 ปี ท่านเคยศึกษาประวัติศาสตร์พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นการเฉพาะเหรือไม่ ท่านมีมุมมองต่อพรรคนี้และสมาชิกทั่วไปของพรรคนี้อย่างไร ท่านเห็นว่า ในการพัฒนาและผลสำเร็จที่ได้รับของจีนนั้น พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีบทบาทมากน้อยเพียงไร ท่านเห็นว่า เหตุใดพรรคคอมมิวนิสต์จีนจึงสามารถนำพาประเทศก้าวสู่ความมั่งคั่งและความเข้มแข็งได้
ดร.ฐณยศ โล่ห์พัฒนานนท์: ศึกษามาตลอดจนเห็นพัฒนาการตั้งแต่ยุคก่อตั้งจนมาถึงยุคแห่งความเติบโต โดยความรู้สึกส่วนตัว มองว่าวิธีทำงานในแบบพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีประสิทธิภาพมากจนควรนำไปถอดบทเรียน หลายคนอาจจะคิดว่าพรรคคอมมิวนิสต์เป็นเรื่องของอำนาจในการปกครอง แต่จริงๆ แล้ว พรรคคอมมิวนิสต์เป็นเรื่องของการบริหารจัดการเพื่อการพัฒนาและจัดสรรทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดโดยไม่ให้ขาดตอน เน้นประโยชน์ของประชาชนทุกคน
ในกรณีของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เราจะเห็นความสำเร็จมากมาย ที่ชัดเจนคือเศรษฐกิจจีนซึ่งรั้งตำแหน่งที่ 2 ของโลกด้วย GDP มูลค่า 14.34 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ขึ้นอันดับ 1 ในด้านภาวะเสมอภาคของอำนาจซื้อด้วยตัวเลข 23.52 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งยังมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ 6.1% นี่มาจากสถิติปี 2019 อย่างไรก็ดี ความสำเร็จอันเป็นหัวใจจริงๆ คือการสร้างความเชื่อมั่นในภาคประชาชน อย่างช่วงโควิด-19 นักศึกษาจีนในต่างประเทศได้รับความช่วยเหลือด้านข้อมูลและเวชภัณฑ์อย่างทั่วถึง หลายคนบอกว่าไม่มีความกังวลเรื่องอาชีพเมื่อต้องกลับไปดำเนินชีวิตในบ้านเกิดตัวเอง ไม่ห่วงเรื่องอภิสิทธิ์ชน หรือ ถ้ามองในภาพกว้าง ปี 2012 จำนวนผู้ยากจนในชนบทจีนมีจำนวนราว 98.99 ล้านคน ตัวเลขตกลงมาอยู่ที่ 0 เมื่อถึงปี 2020 ตัวอย่างเหล่านี้มาจากปณิธานของพรรคซึ่งยกประชาชนเป็นตัวตั้ง เข้าใจว่าเมื่อใดก็ตามที่ประชาชนบางกลุ่มยังแร้นแค้น ความก้าวหน้าของชาติก็จะยังเป็นเพียงภาพฝันและความคงอยู่ของพรรคก็จะเป็นคำถาม จีนจึงยึดมั่นในหลักการกระจายความมั่งคั่งอันเป็นสิ่งที่หลายชาติตระหนักมาตลอดแต่ยังไม่เคยบรรลุความสำเร็จได้
แต่ความสำเร็จของพรรคจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าขาดแรงขับ 2 อย่างกับพื้นฐานอีก 1 อย่าง แรงขับแรกคือความทรงจำในอดีตที่จีนถูกจดจำในฐานะคนป่วยแห่งเอเชียทั้งที่จีนเป็นมหาอำนาจในยุคก่อนหน้า แรงขับถัดมาคือแนวโน้มในอนาคตซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการกลับไปเป็นคนป่วยหากขาดการบริหารจัดการที่ดี ส่วนพื้นฐานจีนคือพลังประชากร เมื่อประชากรมีจำนวนมาก การโอบอุ้มทุกคนให้ช่วยกันค้ำชูชาติย่อมดีกว่าการคัดสรรหรือปล่อยตามยถากรรมทุนนิยม เพราะถ้าประชากร 1,400 ล้านคนร่วมแรงร่วมใจกัน ใครก็ไม่อาจเจาะทำลายประเทศจีนได้
กระนั้น ความแน่วแน่ในการมุ่งสู่ความเป็นเลิศและละเอียดรอบคอบในการพัฒนาน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด อย่างที่กล่าวไว้ พรรคคอมมิวนิสต์จีนตั้งมั่นในเรื่องของการพาจีนทั้งชาติไปอยู่แถวหน้ามากกว่าจะรักษาอำนาจปกครองโดยไม่สนประชาชน แผนพัฒนาในทุกยุคสมัยจึงว่าด้วยความเป็นอยู่ ศักดิ์ศรี ผสมกับความรู้ใหม่ๆ และความตื่นตัวเกี่ยวกับโลกภายนอก สิ่งที่ส่งต่อจากผู้นำพรรครุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นจึงเป็นอุดมการณ์การสร้างความเข้มแข็ง ด้วยเหตุนี้ พรรคคอมมิวนิสต์จีนตั้งมั่นในการนำพาชาติมาตลอดแม้จะมีช่วงผิดพลาดในการบริหารจัดการก็ตาม
ผู้สื่อข่าว:จากสภาพว่างเปล่าเมื่อเริ่มแรกก่อตั้งประเทศจีนใหม่ จนพัฒนามาเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับที่ 2 ของโลก พรรคคอมมิวนิสต์จีนในฐานะพรรครัฐบาลกำลังนำพาประชาชนก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง ท่านเห็นว่า พรรคการเมืองใดก็ตามควรมีคุณสมบัติอะไรบ้างจึงจะสามารถรักษาความมีชีวิตชีวาไว้อย่างถาวรได้
ดร.ฐณยศ โล่ห์พัฒนานนท์:ทฤษฎีการทำพรรคมีมากมาย เนื้อหารายละเอียดอาจจะซับซ้อนตามแต่สำนักคิดนั้นๆ จะบัญญัติ แต่คุณสมบัติของพรรคที่จะประสบความสำเร็จกลับเป็นเรื่องพื้นฐานที่จะนำไปสู่การเอาชนะใจประชาชน พรรคการเมืองต้องมีความแน่วแน่ในการพัฒนา รอบคอบในการวางแผนและจัดการ ไม่วางตัวเองเป็นตัวแทนของฝ่ายใดแต่เพื่อชาติโดยรวม เพราะชาติคือทุกคน ไม่ใช่องค์กรราชการ ทุนชั้นนำ คนชั้นกลาง หรือ แรงงานระดับล่าง พรรคยังต้องวางนโยบายรวมทั้งกระทำการอย่างมียุทธศาสตร์ คำว่า “ยุทธศาสตร์” สื่อความว่ารู้จักสถานการณ์และรู้ทางที่จะรับมือ พร้อมยืดหยุ่นเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลง แต่ไม่เปลี่ยนเป้าหมาย ยามมีอำนาจ หน้าที่พรรคคือบริหารบ้านเมือง ไม่ใช่บริหารอำนาจตัวเอง ความสำเร็จของพรรคการเมืองจึงไม่ได้อิงเทคนิคพิสดารอะไร แต่เป็นบรรทัดฐานในการทำงาน นั่นคือความจริงใจ ซื่อตรง รับผิดชอบ เพราะพรรคการเมืองต้องเสียสละ
ผู้สื่อข่าว:จีนกับไทยเป็นประเทศเพื่อนบ้านฉันมิตรที่มีการไปมาหาสู่กันทางเศรษฐกิจและการค้าอย่างต่อเนื่อง ท่านเห็นว่าภายใต้สถานการณ์ที่โรคระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบเศรษฐกิจทั่วโลกนั้น จีนกับไทยควรกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นและสร้างความผาสุกแก่ประชาชนทั้งสองประเทศอย่างไร
ดร.ฐณยศ โล่ห์พัฒนานนท์:สานต่อการเชื่อมโยงอย่างที่ได้เริ่มไปแล้ว แต่เน้นประเด็นความเท่าเทียมให้ชัดขึ้น เช่น การส่งออกสินค้าจีนเข้าไทยและการรับซื้อสินค้าไทยเข้าจีนในลักษณะที่ช่วยเติมเต็มความต้องการซึ่งกันและกัน เพราะปฏิบัติการข่าวสารจากหลายฝ่ายทำให้ภาคประชาชนบางส่วนไขว้เขว มองว่าการค้ากับจีนมีแต่ความเสี่ยง ทางเดียวที่จะรับมือก็คือการพิสูจน์ความจริงใจผ่านการกระทำ อาจจะใช้เวลานาน แต่ให้ผลยั่งยืนกว่าการว่ากล่าวเฉพาะในนโยบาย
ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจำต้องแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในด้านอื่นๆ ให้มากขึ้นด้วยเพื่อเสริมความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและการค้า ถ้าเป็นการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมสมัยนิยมอย่างภาพยนตร์ เพลง ละคร จะช่วยได้มาก ดูกรณีของสหรัฐฯ และญี่ปุ่นในยุค 90 เป็นต้น ส่วนการแลกเปลี่ยนที่มีมาแต่เดิม เช่น การศึกษา ก็ควรนำมาขยายผลว่าให้ประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่ายอย่างไร เช่น ต้นปี 2020 นักเรียนนักศึกษาจีนในไทยมีมากกว่า 12,000 คน ไทยไม่เพียงมีรายได้จากค่าเล่าเรียน หรือ ค่าใช้จ่ายประจำวันเท่านั้น แต่นักเรียนนักศึกษากลุ่มนี้จะกลับไปเป็นทูตวัฒนธรรมให้แก่ฝ่ายไทย ช่วยเสริมสร้างไทยนิยมในสังคมจีน หรือ การส่งคนไทยไปศึกษาประเทศจีนก็จะได้ความรู้นำสมัยพร้อมกับความเข้าใจจีนกลับมา ทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลต่อการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าทั้งสิ้น
ที่เหลือก็คงเป็นความระมัดระวังข่าวสารประเภทมุ่งสร้างภาพเท็จในหมู่ประชาชน ยิ่งเป็นยุคโซเชียมีเดีย การสร้างภาพเท็จเกิดขึ้นได้ง่าย กระจายได้กว้าง มีแต่ความจริงใจเท่านั้นที่จะทัดทานปัญหาได้
สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดยภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งประเทศจีน-CMG