ใน "รายชื่อผู้ประกอบการที่ร่ำรวยที่สุดของเซินเจิ้นปี 2020" ล่าสุด มีชื่อชายหนุ่มคนหนึ่ง กลายเป็นมหาเศรษฐีอายุน้อยที่สุดที่สร้างตัวเอง ชื่อของเขาคือ เนี่ย หยูนเฉิน ผู้ก่อตั้ง HeyTea ที่มีอายุเพียง 29 ปี ตั้งแต่ปี 2012 ถึงปัจจุบัน HeyTea มีสาขามากกว่า 500 แห่งใน 49 เมืองทั่วโลก
มีรายงานว่า “Heekcaa” ได้กลายเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในเอเชีย ตอนนี้นอกจากประเทศจีน มี 4 สาขาในต่างประเทศแล้ว คือ เวียดนาม เกาหลีใต้ ไทยและอเมริกา
แต่สำหรับ เนี่ย หยูนเฉิน ผู้ก่อตั้ง HeyTea ที่มีอายุเพียง 29 ปี ก่อนที่ทำแบรนด์ HeyTea เรื่องราวของเขาอาจเป็นหนึ่งในเรื่องราวของคนธรรมดาเท่านั้น
ปี 1991 เนี่ย หยูนเฉิน เกิดในครอบครัวธรรมดาในมณฑลเจียงซี ภาคใต้ของประเทศจีน เมื่อเข้าเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น ก็อพยพตามพ่อแม่ไปเมืองเจียงเหมิน มณฑลกวางตุ้ง เมื่อเขาอายุ 19 ปี หลังจากจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยม เขาตัดสินใจไปขายโทรศัพท์มือถือ แต่มีช่วงเวลาดีๆ อยู่ไม่นาน ในปี 2011 อีคอมเมิร์ซเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ร้านขายโทรศัพท์มือถือแบบออฟไลน์กำลังเผชิญกับผลกระทบอย่างไม่เคยมีมาก่อน เมื่อได้เห็นธุรกิจของตนเองนั้นแย่ลงเรื่อย ๆ เนี่ย หยูนเฉิน ตกอยู่ในความวิตกกังวล
มีอยู่วันหนึ่ง เมื่อเขาเดินผ่านร้านชานมแห่งหนึ่ง เขามีแรงบันดาลใจว่าชานมที่ทำด้วยผงยังสามารถมีลูกค้าจำนวนมาก ถ้าเป็นเครื่องดื่มที่ทำด้วยชาจริงๆ จะได้รับความนิยมมากขึ้นหรือไม่?
ตอนนั้น เนี่ย หยูนเฉิน อายุเพียง 21 ปี พิมพ์เขียวใหม่สำหรับธุรกิจของเขาค่อยๆ ปรากฏขึ้นในสมองของเขา ด้วยเงิน 200,000 หยวนที่ได้จากการร้านโทรศัพท์มือถือ เขามุ่งมั่นที่จะเริ่มต้นธุรกิจอีกครั้ง เขากล่าวว่า “ คู่แข่งร้านชานมไม่มาก และจะทำเป็นธุรกิจใหญ่หรือเล็กก็ได้ ธุรกิจใหญ่ก็คือสามารถทำเครื่องดื่มชาจีนรุ่นเยาว์ได้ ธุรกิจเล็ก ๆ ก็ทำจากร้านเล็ก ๆ ได้”
จากนั้น Royal Tea เกิดแล้ว นี่คือรุ่นก่อนของ HEYTEA ในปีต่อมา เนี่ย หยูนเฉิน เปิดร้านค้า 3 แห่งในเมืองเจียงเหมินอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีหน้าร้านในเมืองโจงซานที่อยู่ติดกัน ช่วงเวลานั้นเขายุ่งมาก โดยเขาเองจะทำหลายหน้าที่ เช่นการตกแต่งร้าน การปรับรสชาติ การออกแบบเมนู ฯลฯ แต่ความพยายามอย่างมากไม่ได้ทำให้เกิดความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งโปรโมชั่นสามวันก่อนเปิดร้าน มักจะดึงดูดผู้คนจำนวนมากให้เข้าคิวมาชื้อ แต่ทันทีที่กิจกรรมจบ ร้านกลายเป็นร้างไม่มีใครมา บางครั้งขายเพียงไม่กี่แก้วต่อวัน วันที่เลวร้ายที่สุดทางร้านมีผลประกอบการวันละ 20 หยวนเท่านั้น
เวลานั้น เนี่ย หยูนเฉิน ถามตัวเองว่า “ ถ้าไม่มีใครในโลกนี้เคยเปิดร้านชานมมาก่อน ผมเป็นคนแรก ผมจะออกแบบผลิตภัณฑ์ วัสดุและกระบวนการอย่างไร " เวลานั้นเป็น "ยุคผง" ของชานม ผงชาผสมกับครีมเทียมผสมน้ำเปล่า ใช้เวลาเพียงสิบวินาทีอย่างเร็วที่สุด ชานมก็ทำเสร็จแล้ว ใช้ผงสะดวกและรวดเร็ว มีต้นทุนต่ำอย่างน่าตกใจ
“ แม้ว่าผงชานี้ทุกคนจะมาใช้ และถูกกฎหมาย แต่ผมไม่ยอมใช้ ในอุตสาหกรรมชานม หลายธุรกิจชอบใช้ผงครีมเทียม ใช้ผงผลไม้สำหรับผลไม้ ใช้ผงครีมสำหรับครีมนม มีผงทุกอย่าง แต่ผงมีคุณภาพต่ำ ผมก็เป็นผู้บริโภค ผมไม่อยากกินมันเข้าไป "เนี่ย หยูนเฉิน กล่าวอย่างตรงไปตรงมา
ไม่ใช้ผง คือความตั้งใจเดิมของ HEYTEA เนี่ย หยูนเฉินจากที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับวงการนี้ เริ่มพยายามทำการวิจัย จนได้รู้จักร้านขายเครื่องดื่มหลัก ๆ ในตลาดทุกร้าน ประกอบด้วยชานมสไตล์ฮ่องกง ชานมไข่มุกไต้หวัน ฯลฯ และพบว่า มะม่วงและชีสเป็นส่วนผสมที่สั่งมากที่สุด เขาจับคู่ชีสกับครีมได้อย่างสร้างสรรค์ และพบว่าทั้งรสชาติและเนื้อสัมผัสของส่วนผสมดังกล่าวมันดีขึ้นมาก ในที่สุด HEYTEA ก็ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์แบบสร้างสรรค์ในเวลานั้นคือ ชานมชีส เป็นครั้งแรก และเมื่อได้ลองนำมาขายก็เห็นได้ชัดเลยว่าลูกค้าของเขาก็รู้สึกเช่นเดียวกัน