เมื่อต้นปี 2020 นครอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ย ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภาคกลางของจีน ถูกล็อกดาวน์นานถึง 76  วัน เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตอนนี้ เวลาผ่านไปหนึ่งปีแล้ว การใช้ชีวิตของชาวอู่ฮั่นได้กลับสู่ภาวะปกติหรือเปล่า สถานที่ท่องเที่ยวในอู่ฮั่นได้เปิดให้เข้าเยี่ยมชมหรือยัง  เมื่อเร็วๆ นี้ หลิวหรงได้ไปเยี่ยมคุณป้าในอู่ฮั่นที่ไม่ได้เจอกันหนึ่งปีกว่าแล้ว และก็ได้ไปเยี่ยมชมเมืองที่มีความน่าค้นหายิ่งขึ้นหลังจากการล็อกดาวน์แห่งนี้อีกด้วย

มีคนบอกว่า อู่ฮั่นเป็นนครใหญ่ที่ตื่นเช้าที่สุดในโลก เพราะว่าชาวอู่ฮั่นถือเรื่องการรับประทานอาหารเช้าเป็นเรื่องสำคัญของทุกวัน ดังนั้น การใช้ชีวิตในอู่ฮั่นของหลิวหรงก็จะเริ่มต้นตั้งแต่ “กั้วเจ่า过早” ความหมายของคำว่า “กั้วเจ่า” ก็คือรับประทานอาหารเช้านั่นเอง  ซึ่งคำนี้ นอกจากจะพูดกันในอู่ฮั่นแล้ว ในเมืองท่าอื่นๆ ของมณฑลหูเป่ยและเมืองหลายแห่งในทางภาคใต้ของจีน ก็จะเรียกกันเช่นนี้ด้วย  “กั้วเจ่า”ในอู่ฮั่น โดยสรุปแล้วมีลักษณะสามประการด้วยกัน คือ หนึ่ง ตื่นแต่เช้าและกินแต่เช้า สอง อาหารที่รับประทานกันนั้นเป็นอาหารแคลอรี่สูงทั้งนั้น  และสาม นิยมซื้ออาหารเช้าจากข้างนอกแต่จะไม่ทำเองที่บ้าน

สาเหตุก็เพราะ อู่ฮั่นอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแยงซีเกียงและแม่น้ำฮั่นเจียง เป็นเมืองท่าในเขตแดนชั้นในที่มีประวัติยาวนาน และก็เป็นเมืองที่มีช่วงฤดูร้อนยาวนานจึงมีอากาศร้อนจัด การทำงานในท่าเรือ ต้องใช้แรงมากๆ เพื่อหลีกเลี่ยงอากาศที่ร้อนจัดในตอนกลางวัน ผู้คนจะเริ่มทำงานกันตั้งแต่เช้าเลย ดังนั้น “กั้วเจ่า” ก็ค่อยๆ กลายเป็นลักษณะสำคัญประการหนึ่งของวิถีชีวิตแบบอู่ฮั่น

ในช่วงเช้าประมาณ 06.30 น.ตามถนนเหลียงเต้าเจีย ซึ่งเป็นถนน “กั้วเจ่า” ที่มีชื่อเสียงที่สุดของอู่ฮั่นก็คึกคักมากแล้ว ถนนสายนี้ตั้งอยู่ในเมืองเก่าของเขตอู่ชาง ชาวเมืองที่อาศัยอยู่ในบริเวณโดยรอบ ล้วนแต่ได้อาศัยอยู่ที่นี่เป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่นักเรียนประถมและมัธยมกำลังจะเข้าเรียนกันพอดี เด็กๆ มักจะซื้ออาหารเช้าในระหว่างทางไปเข้าเรียน บ้างก็เดินไปกินไป บ้างก็พกไปกินที่โรงเรียน

ชาวอู่ฮั่นจะรับประทานอะไรเป็นอาหารเช้ากันบ้าง มีบะหมี่เร่อกันเมี่ยน ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัว ซาลาเปาทอด ปาท่องโก๋และแป้งทอด  หลิวหรงเดินไปนับไป น่าจะมีอย่างน้อยร้อยชนิดเลยทีเดียว ไม่ทราบว่าร้านไหนอร่อยจะทำอย่างไรดี ถ้ามา “กั้วเจ่า” ในชุมชนแบบถนนเหลียงเต้าเจียนั้น ต้องสังเกตดูว่า ร้านไหนมีลูกค้าผู้สูงวัยมากกว่า ร้านนั้นก็จะเป็นร้านที่อร่อยอย่างแน่นอน  ซานเซียนโต้วผี ชั้นบนและชั้นล่างเป็นผิวเต้าหู้ ชั้นในมีข้าวเหนียว เนื้อกุ้ง เห็ดและหมูสามชั้น ทอดบนกะทะใหญ่ เนื้อแป้งสีทอง ผิวปาง อร่อยมาก

ร้านอาหารที่โด่งดังบนอินเทอร์เน็ตที่สุดแห่งหนึ่ง ขาย “แป้งทอดห่อขนมจีบ” เป็นหลัก เล่ากันว่าเป็นร้านยอดฮิตในถนนสายนี้ ช่วงเช้าเป็นเวลาของชาวเมืองที่อยู่ในบริเวณโดยรอบ ส่วนเวลาช่วงอื่นจึงจะเป็นเวลาของนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เดินทางมาตามชื่อเสียง โดยจะใช้เวลาต่อแถวอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงโดยเฉลี่ย หลิวหรงก็ได้ซื้อชุดหนึ่งเหมือนกัน อร่อยจริงๆ

“กั้วเจ่า” เสร็จแล้ว หลิวหรงก็ตรงไปยังบ้านของคุณป้า คุณป้าและคุณลุงอายุ 80 กว่าปีแล้ว ก่อนปลดเกษียณนั้น ทั้งคู่เป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีอู่ฮั่น  ส่วนลูกสาวของคุณป้า ก็คือพี่สาวของหลิวหรง ตอนนี้ยังทำงานในมหาวิทยาลัยแห่งนี้อยู่  ชุมชนที่คุณป้าอาศัยอยู่นั้น อยู่ใกล้มหาวิทยาลัย ร่มรื่นและเงียบสงบ  คุณป้าบอกว่า ในช่วงล็อกดาวน์นั้น ชุมชนของคุณป้าไม่พบผู้ป่วยโควิดฯ สักคนเลย แม้จะรู้สึกเครียดและมีความไม่สะดวกในการใช้ชีวิตบ้างก็ตาม แต่การดำรงชีวิตยังคงดำเนินไปตามปกติ เมื่อเห็นคุณลุงคุณป้าที่ได้ผ่านการแพร่ระบาดและการล็อกดาวน์ที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ก็ยังมีสุขภาพร่างกายและทางจิตใจที่ดี หลิวหรงก็รู้สึกดีใจมาก

ในฐานะที่เป็นเมืองศูนย์กลางทางการศึกษาในภาคกลางของจีน  ในจำนวนประชากรที่อยู่ในอู่ฮั่นกว่า 11 ล้านคนนั้น ก็มีนักศึกษาราว 1.2 ล้านคนเลยทีเดียว ซึ่งเป็นประมาณหนึ่งในสิบของประชากรทั้งเมือง

ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา นักศึกษาจำนวนมากไม่สามารถเข้าเรียน เข้าสอบ หรือแม้กระทั่งเข้าร่วมพิธีจบการศึกษาเนื่องจากการล็อกดาวน์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันและการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นอีกในภายหลัง แต่ตอนนี้หลิวหรงก็ได้เห็นกับตาว่า ในรั้วมหาวิทยาลัยได้ฟื้นฟูการเรียนการสอนตามปกติแล้ว หนุ่มๆ สาวๆ ทุกคนมีชีวิตชีวา บ้างก็ออกกำลังกายในสนามกีฬาอย่างคึกคัก บ้างก็อ่านหนังสือในห้องสมุดอย่างเงียบๆ

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่อาจเอาชนะได้โดยสิ้นเชิง แต่ดูเหมือนว่ามีพลังที่ให้กำลังใจชาวอู่ฮั่นในการดำรงชีวิตอย่างเข้มแข็งและกล้าหาญต่อไป