วันที่ 10 พฤษภาคม โฆษกคณะผู้แทนจีนประจำสหประชาชาติแสดงความไม่พอใจยิ่งและคัดค้านอย่างเด็ดเดี่ยวต่อสหรัฐฯ อังกฤษ เยอรมนี และเอ็นจีโอ(NGO)บางองค์กร ที่วางแผนจะจัดกิจกรรมคู่ขนาน(side event)เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในซินเจียงของจีน เร็วๆนี้ที่นครนิวยอร์ค
โฆษกคณะผู้แทนจีนเร่งรัดให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องยกเลิกกิจกรรมที่แทรกแซงกิจการภายในของจีนครั้งนี้ และเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกสหประชาชาติต่อต้านกิจกรรมดังกล่าว
โฆษกคณะผู้แทนจีนชี้ว่า สหรัฐฯ อังกฤษ เยอรมนีและฝ่ายอื่นที่ร่วมกิจกรรมครั้งนี้ อันมีเป้าประสงค์ทางการเมืองจะต่อต้านจีน คิดเพ้อเจ้อที่จะสร้างความแตกแยกและก่อความวุ่นวายในซินเจียง โดยใช้ประเด็นสิทธิมนุษยชนมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อแทรกแซงกิจการภายในและยับยั้งการพัฒนาอย่างสันติของจีน
ปัจจุบัน สถานการณ์ในซินเจียงมีความสงบเรียบร้อย เศรษฐกิจพัฒนาอย่างรวดเร็ว ประชาชนชนเผ่าต่างๆอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนกัน กล่าวได้ว่า ซินเจียงอยู่ในยุคที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่สหรัฐฯและฝ่ายอื่นที่จะเข้าร่วมกิจกรรมคู่ขนานครั้งนี้ชอบสร้างเรื่องโกหก โดยมีแผนอุบายที่จะใช้ประเด็นเกี่ยวกับซินเจียงมายับยั้งการพัฒนาของจีน และสร้างความวุ่นวายในจีน การกระทำเช่นนี้ทำให้ประชาชนชนเผ่าต่างๆ ในซินเจียง ซึ่งรวมทั้งประชาชนอุยกูร์ด้วยรู้สึกไม่พอใจยิ่ง และถูกประชาชนทั่วประเทศคัดค้านอย่างเด็ดขาด จำต้องประสบความพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
โฆษกคณะผู้แทนจีนยังกล่าวว่า ขณะนี้ โรคติดเชื้อโควิด-19 ยังคงระบาดในโลก ประเทศสมาชิกสหประชาชาติเรียกร้องให้ประชาคมโลกต้องสามัคคีกันในการรับมือกับโรคระบาด และร่วมมือกันขับเคลื่อนการฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่สหรัฐฯและฝ่ายอื่นที่จะร่วมกิจกรรมคู่ขนานครั้งนี้ไม่นำพาต่อเสียงเรียกร้องดังกล่าว ยืนกรานที่จะให้ประเด็นสิทธิมนุษยชนกลายเป็นปัญหาทางการเมือง พยายามก่อให้เกิดการเผชิญหน้ากันทางการเมือง และทำลายความสามัคคี ความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกสหประชาชาติ การกระทำเช่นนี้เป็นการละเมิดวัตถุประสงค์ และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ และบรรทัดฐานแห่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างรุนแรง อีกทั้งยังเป็นการบั่นทอนการใช้ความพยายามของประเทศสมาชิกสหประชาชาติในการรับมือกับการท้าทายระดับโลก ทำลายความร่วมมือด้านสิทธิมนุษยชนและด้านอื่นๆ การกระทำเช่นนี้จึงย่อมจะถูกประเทศสมาชิกสหประชาชาติคัดค้านอย่างเด็ดเดี่ยว
โฆษกคณะผู้แทนจีนกล่าวด้วยว่า สหรัฐฯและฝ่ายอื่นที่จะเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริง จงใจสร้างเรื่องโกหก เผยแพร่ข้อมูลเท็จด้วยเจตนาร้าย ตามสภาพความเป็นจริงแล้ว ในช่วง 4 ปีกว่าที่ผ่านมา เนื่องจากจีนได้ใช้ความพยายามที่ไม่ลดละ และมาตรการที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ซินเจียงไม่เคยเกิดเหตุก่อการร้ายแม้รายเดียว ประชาชนชนเผ่าต่างๆในซินเจียงอยู่เย็นเป็นสุข ในช่วง 60 กว่าปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจซินเจียงขยายตัว 200 กว่าเท่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศเฉลี่ยต่อคนเติบโตเกือบ 40 เท่า อัตราคาดหวังของอายุขัยเฉลี่ยของประชาชนชนเผ่าต่างๆในซินเจียง เพิ่มขึ้นจาก 30 ปีมาเป็น 72 ปี นอกจากนี้ ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ประชากรชาวอุยกูร์ได้เพิ่มมากขึ้นจาก 5.55 ล้านคนมาเป็น 12.8 ล้านคน ความสำเร็จของจีนในการปกป้องสิทธิมนุษยชนเป็นที่รู้กันทั่วโลก สหรัฐฯและฝ่ายอื่นที่จะเข้าร่วมกิจกรรมคู่ขนานครั้งนี้เองที่ต้องสำนึกผิดในการปฏิบัติต่อชนกลุ่มน้อยในประเทศตน
โฆษกคณะผู้แทนจีนกล่าวอีกว่า สหรัฐฯพูดอยู่ตลอดเวลาว่า ให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนของชาวมุสลิม แต่ทั่วโลกรู้กันทั่วไปว่า สหรัฐฯได้สังหารชาวมุสลิมในประเทศอัฟกานิสถาน อิรัก และซีเรีย สหรัฐฯและสาวกได้สังหารชาวมุสลิมจำนวนมาก สหรัฐฯได้ก่อสงครามและใช้ปฏิบัติการทางทหารโดยอ้างการต่อต้านการก่อการร้าย ทำให้มีประชากรกว่า 800,000 คนเสียชีวิตจากสงคราม ซึ่งผู้เสียชีวิตเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ นอกจากนี้ ปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯและสาวกยังทำให้ประชาชนหลายสิบล้านคนต้องพลัดที่นาคาที่อยู่ สหรัฐฯไม่ได้สนใจในชาวมุสลิมเกือบหนึ่งล้านคนที่เสียชีวิตในประเทศอัฟกานิสถาน อิรัก และซีเรีย แต่กลับมาให้ความสนใจพิเศษต่อมุสลิมชาวอุยกูร์ที่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในเขตซินเจียงของจีน ความหน้าซื่อใจคดและเจตนาร้ายที่แฝงอยู่ของสหรัฐฯ สามารถมองเห็นได้อย่างง่ายมาก
(yim/cai)