‘สี จิ้นผิง’กับพ่อ :‘การวิ่งผลัด’ของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์สองรุ่น

2021-06-19 18:43:25 | CRI
Share with:

ทั้งนายสี จิ้นผิง และนายสี จ้งซวิน บิดาของนายสี จิ้นผิง ต่างเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เด็ดเดี่ยวในความเชื่อต่อพรรคฯ

ในสายตาของประชาชนนายสี จ้งซวินเป็น "ผู้นำที่มาจากประชาชนทั่วไป" แต่ยืนหยัดเคียงข้างประชาชนเสมอ ชีวิตของเขาคือชีวิตแห่งการปฏิวัติ ชีวิตแห่งการต่อสู้ และชีวิตแห่งการรับใช้ประชาชนด้วยใจจริง

สี จ้งซวิน บิดาของสี จิ้นผิง ยืนหยัดแนวคิด "ทำทุกอย่างเพื่อประชาชน พึ่งพาประชาชนมาโดยตลอด มาจากประชาชน และกลับสู่ประชาชน"

นายสี จ้งซวิน เห็นว่า "ข้าราชการและประชาชนมีฐานะเท่าเทียมกัน ไม่มีความแตกต่างว่าใครจะสูงหรือต่ำกว่า พวกเราต้องอยู่กับประชาชนตลอดไป"

ไม่ว่าจะอยู่ที่เมืองเหยียนอัน ชนบท หรือโรงงาน สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์โดดเด่นผู้นี้อยู่กับประชาชนมาตลอดพร้อมรอยยิ้มที่สร้างความอบอุ่นแก่ประชาชน

สี จิ้นผิง สืบทอดคุณธรรมจากพ่อ เขากล่าวว่า "สมาชิกพรรค หรือ ข้าราชการทุกคน มีแต่หน้าที่และความรับผิดชอบที่ต้องรับใช้ประชาชนเท่านั้นและไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าเป็นนาย"

ค.ศ. 1978 นายสี จ้งซวิน วัย 65 ปี ไปเป็นข้าราชการดูแลมณฑลกวางตุ้ง

เขาเป็นคนที่ใช้ชีวิตทางตอนเหนือหลายสิบปีจึงไม่ชินกับอากาศที่ทั้งร้อนและชื้นมากทางภาคใต้ เดือนกรกฎาคมและสิงหาคมเขาไปตรวจงานใน 21 อำเภอทางตะวันออกของกวางตุ้ง รวมทั้งอำเภอเหมยเซี่ยน ซัวเถา และฮุ่ยหยาง เป็นต้น นายสี จิ้นผิง ซึ่งกำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยชิงหวาในขณะนั้นใช้วันหยุดปิดภาคเรียนฤดูร้อนร่วมเก็บข้อมูลและทัศนะศึกษาที่กวางตุ้งด้วย

‘สี จิ้นผิง’ กับพ่อ: ‘การวิ่งผลัด’ ของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์สองรุ่น_fororder_xjp1_副本

เดือนสิงหาคม ค.ศ. 1978 สี จ้งซวิน (คนที่สามจากซ้าย) ตรวจงานในพื้นที่ชนบทของอำเภอฮุ่ยหยาง มณฑลกวางตุ้ง สี จิ้นผิง (คนแรกจากซ้าย) ร่วมทัศนะศึกษาช่วงปิดเทอมฤดูร้อนและลงพื้นที่กับพ่อ

นายสี จ้งซวินให้ความสำคัญกับการตรวจสอบและการศึกษาวิจัยมาโดยตลอด สนับสนุนให้ออกจาก "อาคารสำนักงาน" เพื่อเข้าหาประชาชน เข้าสู่ความเป็นจริง รวมทั้งค้นหาวิธีแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมที่สุดและตรงกับความจริงมากที่สุด นายสี จิ้นผิงจึงได้รับอิทธิพลจากพ่อมาตั้งแต่วัยเยาว์

ในช่วงระหว่างการทำงานในอำเภอเจิ้นติ้ง มณฑลเหอเป่ย กว่า 1,000 วัน นายสี จิ้นผิงเดินทางไปยังชุมชน 25 แห่งและหน่วยการผลิต 221 หน่วยทั่วมณฑล ช่วงที่เขาไปทำงานที่มณฑลเจ้อเจียงใหม่ ๆ เขาทำงานมากกว่า 12 ชั่วโมงต่อวัน และการดูงานกินเวลามากกว่า 40% ของเวลาทำงาน เขากล่าวว่า "หากดูงานอย่างลึกซึ้งและทำได้รอบด้าน ทักษะของเราจะเพิ่มขึ้น ความรู้ของเราก็จะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดและเราจะสามารถทำงานได้ดีขึ้น”

‘สี จิ้นผิง’ กับพ่อ: ‘การวิ่งผลัด’ ของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์สองรุ่น_fororder_xjp2_副本

ค.ศ. 1958 สี จ้งซวินกับลูกชาย สี จิ้นผิง และสี หย่วนผิง

สิ่งที่สี จิ้นผิงเรียนรู้จากพ่อ คือ ความขยันหมั่นเพียรและความประหยัด

ความประหยัดของสี จ้งซวินนั้นเกือบกล่าวได้ว่าเข้มงวดมาก การปลูกฝังอย่างเข้มงวดของนางฉี ซิน ภรรยาของท่านนั้นยังเป็นเรื่องที่ทุกคนต่างเล่าขานต่อกัน การทำงานของบิดาจึงปลูกฝังนิสัยมัธยัสถ์ให้กับนายสี จิ้นผิงมาตั้งแต่เด็ก

หลายปีมานี้ นายสี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่ฯ เดินทางดูงานหลายพื้นที่ เพื่อลดภาระการรองรับจากท้องถิ่น เขาจึงหยุดพักในตอนเช้าและพักค้างคืนบนรถไฟพิเศษหลายครั้ง พยายามลดมาตรฐานการรับรอง สำหรับกิจกรรมทางการทูตในต่างประเทศเขาสั่งให้คณะผู้แทนพยายามลดจำนวนวันที่ต้องเข้าพักโรงแรมเพื่อไม่สิ้นเปลืองเงิน ทั้งยังบอกว่าไม่ต้องหรูหราเกินไปอยู่ได้สบายก็พอ

‘สี จิ้นผิง’ กับพ่อ: ‘การวิ่งผลัด’ ของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์สองรุ่น_fororder_xjp3_副本

ครอบครัวสามคนของสี จิ้นผิง ถ่ายภาพกับสี จ้งซวิน

พลังของตัวอย่างนั้นไม่มีที่สิ้นสุด คำพูดและการแสดงออกของบิดาสอนให้สี จิ้นผิงเป็นบุคคลที่ควรเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นแนวทางที่ถือประชาชนเป็นที่ตั้ง เน้นการตรวจสอบ และภาคปฏิบัติ ตลอดจนต้องประหยัดการใช้ ต่างเป็นมรดกล้ำค่าของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งนายสี จ้งซวิน และนายสี จิ้นผิง สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์สองรุ่นได้รักษาไว้เหมือนการวิ่งผลัดเพื่อให้ได้รับการสืบสานและเชิดชูตลอดไป

Tim/lei/ZYP

  • เสียงข่าวประจำวัน (15-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (15-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (15-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (14-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (14-11-2567)

雷德辛