บทวิเคราะห์ : ทำไมประชาชนจึงสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างสุดใจ

2021-06-21 13:17:11 | CMG
Share with:

บทวิเคราะห์ : ทำไมประชาชนจึงสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างสุดใจ_fororder_活动标识

"รองเท้าเหมาะกับเท้าหรือไม่ ผู้สวมใส่เท่านั้นที่รู้จริง" นี่เป็นความจริงอันเรียบง่ายที่คนทั้งโลกยอมรับกันโดยทั่วไป

อีกไม่กี่วันในวันที่ 1 กรกฎาคมปีนี้ เป็นวาระครบรอบ 100 ปีแห่งการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน พรรคการเมืองที่ปกครองประเทศจีนมายาวนานนี้ดีและควรค่าแก่การสนับสนุนหรือไม่นั้น ก็ย่อมมีแต่ประชาชนจีนเท่านั้นที่รู้ดีและมีสิทธิ์ออกเสียงมากที่สุด

ตามรายงานการวิจัยที่ประกาศโดยวิทยาลัยเคนเนดี มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดแห่งสหรัฐอเมริการะบุว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อัตราความพึงพอใจต่อรัฐบาลของประชาชนจีนสูงถึงกว่า 90%

นี่เป็นข้อมูลการสำรวจจากสถาบันการศึกษาต่างประเทศ หาใช่เป็นการ "อวดอ้าง"ของคอมมิวนิสต์จีนไม่

สภาพที่เป็นอยู่ในประเทศจีนเป็นเช่นนั้นจริงๆ! พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้รับความไว้วางใจและการสนับสนุนอย่างสุดใจจากชาวจีนส่วนใหญ่ ทั้งนี้ย่อมมาจากประสบการณ์โดยตรงของประชาชนต่อการปกครองภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

ชาวจีนมีความเข้าใจจากข้อเท็จจริงว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีอุดมการณ์และความศรัทธาอันสูงส่งและแน่วแน่ ซึ่งก็คือความเชื่อในลัทธิมาร์กซ์ สังคมนิยม และลัทธิคอมมิวนิสต์ ทำให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนสามารถยืนหยัดความมุ่งมั่นตั้งใจแต่แรกเริ่มและภาระหน้าที่มาโดยตลอดได้ นั่นก็คือ "การแสวงหาความสุขแก่ประชาชนและฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรื่องแก่ประชาชาติจีน"

ตลอด 100 ปีที่ผ่านมา ชาวจีนได้เห็นชาวพรรคคอมมิวนิสต์จีนรุ่นต่อรุ่นต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่เพื่ออุดมการณ์และความศรัทธา หลายล้านคนได้สละชีวิตอันมีค่าของพวกเขา เป็นเพราะชาวพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีอุดมการณ์และความศรัทธาที่แน่วแน่พวกเขาจึงไม่มีความเย่อหยิ่งในช่วงเวลาแห่งชัยชนะราบรื่น และไม่หวั่นไหวในยามยากลำบากติดขัด สามารถผลักดันการปฏิบัติอันยิ่งใหญ่แห่งการต่อสู้เพื่ออุดมการณ์อันสูงส่งให้เดินหน้าไปอย่างต่อเนื่อง

ชาวจีนมีความเข้าใจจากข้อเท็จจริงว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีน ประเทศจีนและประชาชาติจีนมีเหตุผลที่จะมั่นใจในตัวเองมากที่สุด ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้รวมความสามัคคีและนำพาประชาชนจีนเอาชนะความยากลำบากที่ดูเหมือนผ่านไม่ได้มาครั้งแล้วครั้งเล่า ได้สร้างปาฏิหาริย์ของมนุษย์ครั้งแล้วครั้งเล่าซึ่งจะถูกบันทึกในประวัติศาสตร์

บนพื้นฐานของความยากจนและว่างเปล่า จีนใช้เวลาเพียงหลายสิบปีเท่านั้นก็สามารถเสร็จสิ้นกระบวนการพัฒนาประเทศให้เป็นแบบอุตสาหกรรม ซึ่งในประเทศที่พัฒนาแล้วต้องใช้เวลาถึงหลายร้อยปี ได้ยกระดับขึ้นมาเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก พลังรวมแห่งชาติ พลังทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พลังด้านการป้องกันประเทศ อิทธิพลทางวัฒนธรรม และอิทธิพลระหว่างประเทศของจีนต่างเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ปัจจุบัน GDP ต่อหัวของจีนทะลุ 10,000 เหรียญสหรัฐติดต่อกันเป็นเวลาสองปี ซึ่งสูงกว่าระดับถัวเฉลี่ยของประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ปี 2020 จีนทำให้ประชากรยากไร้ทุกคนพ้นจากความยากจนได้อย่างครอบคลุมตามมาตรฐานปัจจุบัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ยุคสมัยในอดีตไม่เคยทำได้สำเร็จ  นับเป็นการสร้างปาฏิหาริย์ในประวัติศาสตร์การบรรเทาความยากจนแห่งมวลมนุษยชาติโดยแท้  

จีนได้สร้างระบบประกันสังคมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งรวมถึงระบบประกันชีวิตผู้สูงวัย ระบบการรักษาพยาบาล ระบบประกันค่าครองชีพขั้นต่ำและอื่นๆ โดยระบบประกันชีวิตผู้สูงวัยขั้นพื้นฐานครอบคลุมประชากรกว่า 900 ล้านคน ระบบการรักษาพยาบาล ครอบคลุมประชากรกว่า 1,300 ล้านคน  อายุขัยเฉลี่ยของประชาชนเพิ่มขึ้นเป็น 77 ปี เมื่อปี 2018

ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ความหวังในชีวิตอันดีงามของประชาชนจีนกำลังเปลี่ยนจากความฝันไปสู่ความเป็นจริง จีนได้รักษาความกลมกลืนและความเสถียรภาพทางสังคมมาเป็นเวลานาน ประชาชนใช้ชีวิตและทำงานอย่างสงบสุข จีนได้กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุดที่ประชาคมระหว่างประเทศยอมรับ

ชาวจีนทุกคนต่างมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า ในขณะที่ชีวิตทางวัตถุของพวกเขาดีขึ้นเรื่อยๆ ชีวิตทางวัฒนธรรมของพวกเขาก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ สภาพแวดล้อมและระบบนิเวศก็ดีขึ้นเรื่อยๆ การบริหารจัดการทางสังคมนับวันดำเนินไปภายใต้ระบบกฏหมาย มีความเป็นธรรมและยุติธรรมมากยิ่งขึ้น

ภายในปี 2035 พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะสามัคคีและนำพาประชาชนบรรลุความทันสมัยแห่งสังคมนิยมขั้นพื้นฐาน และบนพื้นฐานนี้จะต่อสู้ต่อไปอีก 15 ปีเพื่อเสร็จสิ้นกระบวนการสร้างประเทศสังคมนิยมที่ทันสมัยและแข็งแกร่งอย่างรอบด้านภายในกลางศตวรรษนี้

ชาวจีนมีความเข้าใจจากข้อเท็จจริงว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นพรรคการเมืองที่แสวงหาความสุขให้แก่ประชาชนจีน ทั้งยังเป็นพรรคการเมืองที่ต่อสู้เพื่อภารกิจความก้าวหน้าแห่งมวลมนุษยชาติอีกด้วย พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ยืนหยัดเดินบนหนทางแห่งการพัฒนาอย่างสันติ และปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ที่เปิดกว้างเพื่อการอำนวยประโยชน์ซึ่งกันและกันและชัยชนะร่วมกันอย่างแน่วแน่มาโดยตลอด แนวคิดว่าด้วยการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันแห่งมนุษยชาตินั้น ได้ตอบคำถามอย่างลึกซึ้งในประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับอนาคตและชะตากรรมของมวลมนุษยชาติ เช่น "ควรสร้างสรรค์โลกแบบไหน  และควรสร้างสรรค์โลกนี้อย่างไร" เป็นต้น ซึ่งได้สะท้อนถึงการแสวงหาคุณค่าร่วมกันของสังคมมนุษย์ตามหลักวิทยาศาสตร์

แต่ในช่วงหลายปีมานี้ ประเทศที่พัฒนาแล้วบางประเทศทางตะวันตกกลับดำเนินการตามลัทธิเอกภาคีนิยม ลัทธิครองความเป็นเจ้า และการเมืองที่ถืออำนาจบาตรใหญ่อย่างขนานใหญ่ โดยถือเอาผลประโยชน์ตนเองทางการเมืองและผลประโยชน์ของพรรคอยู่เหนือผลประโยชน์ของประชาชนอันกว้างไพศาล

ในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พรรคคอมมิวนิสต์จีนยืนหยัดประชาชนและชีวิตสำคัญที่สุด  ประสบความสำเร็จในการป้องกันควบคุมโรคระบาดก่อนประเทศอื่นๆ และได้บรรลุการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยอัตราการขยายตัวเป็นเลขบวกในประเทศเศรษฐกิจหลักของโลก จีนได้สร้างคุณูปการอย่างแข็งขันต่อการต่อสู้กับโรคโควิด-19 ของทั่วโลก ซึ่งได้สะท้อนให้เห็นถึงความเหนือกว่าของระบอบสังคมนิยมที่มีอัตลักษณ์ของจีนอย่างเด่นชัด

ชาวจีนนับวันตระหนักอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นว่า การแสวงหาสังคมนิยมของพรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่ใช่การพูดคุยที่ว่างเปล่า "เขตสาธิตความมั่งคั่งร่วมกัน" และ "เขตสาธิตนำร่องสังคมนิยมที่มีอัตลักษณ์ของจีน" ได้เริ่มการทดลองแล้วในมณฑลเจ้อเจียงและเมืองเซินเจิ้นตามลำดับ หนทางสังคมนิยมที่มีอัตลักษณ์ของจีนนับวันยิ่งเดินยิ่งมีความมั่นคงและกว้างขวางยิ่งขึ้น

ดังนั้น ประชาชนจีนส่วนใหญ่จึงเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่า จีนในยุคปัจจุบันมีเพียงยืนหยัดเดินบนหนทางสังคมนิยมในแบบของจีนภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเท่านั้น จึงจะเป็นหนทางที่ถูกต้องแห่งการบรรลุการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของประชาชาติจีน

YIM/LU

  • เสียงข่าวประจำวัน (15-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (15-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (15-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (14-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (14-11-2567)

陆永江