ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่มีประวัติร่วมร้อยปีแล้ว  จีนที่มีเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลก เป็นทั้งผู้มีบทบาทสำคัญและผู้ได้รับประโยชน์ในการสร้างความร่วมมือทั่วโลก 

แม้ขณะนี้ การกีดกันทางการค้าและการต่อต้านเศรษฐกิจโลกาภิวัตน์ยังคงทวีความรุนแรงขึ้นในขอบเขตทั่วโลก  แต่จีนให้คำมั่นสัญญาครั้งแล้วครั้งเล่าต่อประชาคมโลกว่า   จีนจะไม่ปิดประตูที่เปิดสู่ภายนอกโดยเด็ดขาด  และจะทุ่มเทกำลังตลอดไปในการส่งเสริมการเปิดสู่ภายนอกระหว่างกัน เพื่อทำให้เกิดความร่วมมือที่มีชัยชนะร่วมกัน  จีนเห็นว่า  การเปิดสู่ภายนอก และความร่วมมือเป็นความต้องการของโลกในขณะนี้ในการขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจฟื้นฟูขึ้นอย่างมั่นคง  และเป็นความต้องการของยุคสมัยในการส่งเสริมให้มวลมนุษยชาติมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง  

เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว    ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เน้นระหว่างลงพื้นที่ตรวจงานที่มณฑลกว่างตง ทางภาคใต้ของจีนว่า  พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะนำประชาชนเดินไปสู่หนทางการปฏิรูปและเปิดประเทศต่อไปอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่  

พรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยมีสมาชิกพรรค 91 ล้านคน ตระหนักดีว่า  เศรษฐกิจโลกาภิวัตน์เป็นกระแสเชิงประวัติศาสตร์ที่ต้องเป็นไป การปิดประเทศมีแต่จะทำให้ประเทศชาติล้าหลังเสื่อมทราม

ตั้งแต่ ค.ศ. 1978 เป็นต้นมา   จีนเริ่มดำเนินนโยบายปฏิรูปและเปิดประเทศ ซึ่งถือเป็นนโยบายขั้นพื้นฐานแห่งชาติ  ทำให้จีนสามารถพัฒนาจากประเทศที่ล้าหลังและยากจนมาเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก   จากการดำเนินความร่วมมือกับประเทศต่างๆทั่วโลก  จีนได้กลายเป็นเครื่องยนต์หลักในการพัฒนาเศรษฐกิจโลก และเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาสันติภาพของโลก

ปัจจุบัน  ประเทศต่างๆทั่วโลกนับวันยิ่งมีความผูกพันกันมากขึ้น  เมื่อเผชิญกับความเสี่ยง และการท้าทายต่างๆระดับโลก   เช่น  การฟื้นฟูเศรษฐกิจโลกหลังโควิด-19 และการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ    ประชาคมโลกต้องระดมความเห็น และพลังจากประเทศต่างๆทั่วโลก  ไม่มีประเทศใดที่สามารถรับมือและแก้ไขความเสี่ยงและการท้าทายต่างๆเหล่านี้โดยลำพังได้  นี่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำไมพรรคคอมมิวนิสต์จีนให้การสนับสนุนและปฏิบัติตามนโยบายความเป็นพหุภาคี  และความร่วมมือที่มีชัยชนะร่วมกันมาโดยตลอด 

พรรคคอมมิวนิสต์จีนยังได้เสนอแนวความคิดการสร้างประชาคมมนุษย์ที่มีอนาคตร่วมกัน  และได้บรรจุแนวความคิดนี้ไว้ในกฎบัตรของพรรคคอมมิวนิสต์จีนด้วย  แนวความคิดสร้างประชาคมมนุษย์ที่มีอนาคตร่วมกันเสนอโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเมื่อ 8 ปีก่อน  เนื้อหาหลักของแนวความคิดนี้คือ   สร้างสันติภาพถาวร  ให้เกิดความปลอดภัย และเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน   เปิดสู่ภายนอกและยอมรับซึ่งกันและกัน รวมทั้งสร้างสรรค์โลกให้สะอาดและสวยงาม     

จีนที่อยู่ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนยินดีที่จะร่วมกันใช้ความพยายามกับประเทศต่างๆทั่วโลก ในการแก้ไขการท้าทายและปัญหาต่างๆที่มนุษย์กำลังเผชิญอยู่    จีนได้แสดงบทบาทอย่างมากในความร่วมมือทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศในช่วงเวลาที่ผ่านมา  จากข้อมูลล่าสุด จนถึงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา   จีนได้บริจาคและส่งออกวัคซีนป้องกันโควิด-19 รวมกว่า 350 ล้านโดสให้แก่ต่างประเทศ

พรรคคอมมิวนิสต์จีนยังได้ติดต่อแลกเปลี่ยนกับพรรคการเมืองของประเทศต่างๆอย่างใกล้ชิด   เพื่อระดมพลังจากพรรคการเมืองต่างๆทั่วโลกในการสร้างประชาคมมนุษย์ที่มีอนาคตร่วมกัน  จนถึงขณะนี้  พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้พัฒนาความสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ กับ 600 กว่าพรรคการเมืองใน 160 กว่าประเทศและเขตแคว้นทั่วโลก 

ความมุ่งมั่นตั้งใจแรกเริ่มและภารกิจของพรรคคอมมิวนิสต์จีนคือ  สร้างความผาสุกให้แก่ประชาชนจีน  และฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของประชาชาติจีน พรรคคอมมิวนิสต์จีนตระหนักดีว่า ต้องมีสภาพแวดล้อมแห่งการพัฒนาที่สันติ และความร่วมมือระหว่างประเทศที่ดี  จึงจะสามารถบรรลุความมุ่งมั่นตั้งใจแรกเริ่มและภารกิจของตนได้ 

ด้วยเหตุนี้ ในวันข้างหน้า พรรคคอมมิวนิสต์จีนยังคงจะนำพาประเทศจีนร่วมมือกับประเทศต่างๆทั่วโลกต่อไป เพื่อได้รับชัยชนะร่วมกันมากขึ้น

(yim/cai)