วันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทางการจีนประกาศ “สมุดปกขาวว่าด้วยการประกันสิทธิเท่าเทียมระหว่างชนเผ่าในเขตซินเจียง” โดยชี้ให้เห็นว่า พรรคคอมมิวนิสต์และรัฐบาลจีนยืนหยัดแนวคิด “ถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง” ทำให้งานด้านสิทธิมนุษยชนในเขตซินเจียงประสบความคืบหน้าเชิงประวัติศาสตร์ ทำลายคำโกหกที่สร้างโดยสื่อตะวันตกได้อีกครั้ง
สมุดปกขาวระบุว่า ตั้งแต่สถาปนาประเทศจีนใหม่เป็นต้นมา รัฐบาลจีนยืนหยัดความเสมอภาค ความสามัคคี และความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันของทุกชนเผ่า เป็นหลักการพื้นฐานในการจัดการปัญหาและความสัมพันธ์ระหว่างชนเผ่าต่าง ๆ ของประเทศ
ตั้งแต่ปลายปี ค.ศ. 2016 เป็นต้นมา เขตซินเจียงไม่เกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายติดต่อกันเป็นเวลากว่า 4 ปี เศรษฐกิจและสังคมพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนถึงปลายปี ค.ศ. 2020 ที่ผ่านมา ผู้ยากจนจำนวน 2,730,000 คน ในเขตซินเจียงพ้นออกจากความยากจนอย่างสมบูรณ์ ปัญหาความยากจนข้นแค้นได้รับการแก้ไขอย่างสิ้นเชิง ขณะเดียวกันวัฒนธรรมและเสรีภาพในการนับถือศาสนาในเขตซินเจียงยังได้รับการคุ้มครองและพัฒนาด้วยดี ปัจจุบันอักษรและภาษากว่า 10 ชนิดของชนเผ่าต่าง ๆ มีการประยุกต์ใช้อย่างกว้างขวาง ภายในมัสยิดมีอุปกรณ์เครื่องใช้ครบถ้วนสร้างความสะดวกแก่กลุ่มผู้นับถือศาสนา ตลอดจนช่วง 40 ปีมานี้ จำนวนประชาชนชนเผ่าอุยกูร์เพิ่มขึ้นจาก 5,500,000 คน เป็น 12,800,000 คน ขณะที่อายุเฉลี่ยของประชากรเพิ่มขึ้นจาก 30 ปีเป็น 72 ปี
ทุกวันนี้เขตซินเจียงกำลังอยู่ในช่วงพัฒนาที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ เปรียบเสมือนหน้าต่างบานหนึ่งที่เปิดให้ทั่วโลกเห็นว่า ประเทศจีนปฏิบัติตามหลักการ “ความเสมอภาคระหว่างชนเผ่า” อย่างเป็นรูปธรรมและทุ่มเทกำลังส่งเสริมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนได้อย่างไร
(Tim/Zi)
ภาพและเนื้อหาข่าวเป็นลิขสิทธิ์ของ China Face